"คาร์มาร์ท" จับมือ 2 พันธมิตร ขยายตลาดประเทศ

17 ต.ค. 2566 – นายวงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการบริษัท กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KARMART เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปีนับจากนี้​ บริษัทวางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีรายได้รวม 4,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักจะมาจากตลาดในประเทศสัดส่วน 85% ขณะเดียวกันยังวางแผนสร้างรายได้ จากการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเพิ่มสัดส่วนรายได้ขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 11%

ทั้งนี้ บริษัทมีการส่งออกสินค้าไปทำตลาดในต่างประเทศมานานกว่า 10 ปีแล้ว ผ่านพันธมิตร คู่ค้า และตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ซึ่งทำตลาดหลักใน 19 ประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ เมียนมา เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อาทิ อิรัก คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงประเทศในต่าง ๆ เอเชีย  อาทิ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และบังคลาเทศ เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทได้พันธมิตรทางธุรกิจ รายใหญ่มาร่วมทุน เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัทฯ รวมถึงช่วยผลักดันและขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ ได้แก่ Wellsiam Company Limited บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศไทยถือหุ้น 100% โดยบริษัท มารุเบนิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Marubeni Corporation) จากประเทศญี่ปุ่น และ QPE Fund 1 Limited  ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งใหม่ในเขตดูแลพิเศษประเทศฮ่องกง ถือหุ้น 100% โดยบริษัท ควอดริก้า ไพรเวต เอควิตี้ จำกัด

สำหรับกลุ่มบริษัทมารุเบนิ ถือเป็นบริษัทเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 100 ปี มีธุรกิจสำคัญ อาทิ ธุรกิจเทรดดิ้ง การนำเข้า ส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการขนส่งสินค้า ส่วนกลุ่มบริษัท ควอดริก้า ไพรเวต เอควิตี้ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน การควบรวมกิจการ

“การได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนในครั้งนี้ มีโอกาสความเป็นไปได้ที่บริษัทฯ จะทำรายได้ตามเป้าหมายเร็วกว่ากำหนดที่วางไว้ รวมถึงการขยายตลาดในประเทศใหม่ ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น จากเครือข่ายทางธุรกิจของพันธมิตร ซึ่งอนาคตอาจจะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศตะวันตกได้ด้วย” นายวงศ์วิวัฒน์ กล่าว

ด้วยศักยภาพและความเชี่ยวชาญของพันธมิตรดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทฯ มีโอกาสในการขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการ การร่วมทุน หรือการ M&A (Mergers and Acquisitions) รวมถึงการจับมือกับเจ้าของแบรนด์สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและความงามที่มีศักยภาพ ในการทำธุรกิจรวมกัน ด้วยความร่วมมือในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การซื้อกิจการทั้งหมด หรือบางส่วน การพัฒนาแบรนด์ร่วมกัน ในกลุ่มสินค้าที่บริษัทฯ ยังไม่มี เพื่อเติมพอร์ตสินค้าให้ครบถ้วนสมบูรณ์

นอกจากนี้  อาจเป็นการร่วมมือกันในด้านการผลิตสินค้า การรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) เนื่องจากบริษัทฯ มีโรงงานเป็นของตนเอง ซึ่งมีศักยภาพ สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายชนิด และมีมาตรฐานระดับสากลเป็นที่ยอมรับ

“พันธมิตรของบริษัทฯ โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น เขามีธุรกิจหลายประเภท และมีบริษัทย่อยอยู่ในหลายประเทศ รวมถึงมีคู่ค้าหรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ มากมาย จึงเป็นจุดสำคัญในการสร้างโอกาสขยายตลาด สร้างพันธมิตรใหม่ ๆ ให้กับบริษัทได้ด้วย” นายวงศ์วิวัฒน์ กล่าว

สำหรับแผนธุรกิจและแนวทางการทำงาน ระหว่างบริษัทและพันธมิตร คาดว่าจะเห็นชัดเจนได้ในปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางแผนงานร่วมกัน โดยในปีนี้การเติบโตของบริษัทฯ เป็นการเติบโตแบบออร์แกนิก ด้วยศักยภาพและแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ อาทิ การขยายตลาดออนไลน์และออนไลน์ การเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ การขยายสาขาร้าน KARMART ในรูปแบบ Flagship Store และการทำตลาดต่างประเทศ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท มาจากตลาดต่างประเทศ 270-280 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20-25% แบบออร์แกนิกจากปีที่ผ่านมา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง