พาณิชย์เผยยอดใช้สิทธิ FTA  7 เดือนมูลค่า 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม ของปี 2566 มีมูลค่ารวม 46,183.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับอาเซียนยังครองแชมป์ตลาดที่มีการใช้สิทธิฯ ส่งออกมากที่สุด ตามติดมาด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-อินเดีย และภายใต้ RCEP

23 ต.ค. 2566 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม ปี 2566 มีมูลค่ารวม 46,183.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ สูงถึง 74.94% โดยสถิติการใช้สิทธิฯ ภายใต้ FTA ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1 ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (มูลค่า 16,487.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 72.72% โดยเป็นการใช้สิทธิฯ ส่งออกไปอินโดนีเซียสูงสุด มูลค่า 4,186.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาเลเซีย มูลค่า 4,022.77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เวียดนาม มูลค่า 3,663.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ มูลค่า 2,850.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และมีการขยายตัวของการใช้สิทธิฯ อาทิ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ (น้ำหนักไม่เกิน 5 ตัน) น้ำตาล น้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่บิทูมินัส และรถยนต์เพื่อขนส่งบุคคล (1,500 – 2,500cc) และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

อันดับ 2 ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) (มูลค่า 14,264.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 93.97% โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และมีการขยายตัวของการใช้สิทธิฯ อาทิ ทุเรียนสด ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มันสำปะหลัง น้ำตาลอื่นๆ รวมถึงแล็กโทส มอลโทส กลูโคส และฟรักโทส ที่บริสุทธิ์ในทางเคมี ฝรั่ง มะม่วง และมังคุด เป็นต้น

อันดับ 3 ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) (มูลค่า 3,758.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 71.66% โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และมีการขยายตัวของการใช้สิทธิฯ อาทิ เนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงแต่ง เนื้อไก่แช่แข็ง เดกซ์ทรินและโมดิไฟด์สตาร์ช ลวดและเคเบิลทำด้วยทองแดง น้ำมันเบากระสอบและถุงทำด้วยโพลิเมอร์ของเอทิลีน และกุ้งปรุงแต่ง เป็นต้น

อันดับ 4 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) (มูลค่า 3,344.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 60.68% โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และมีการขยายตัวของการใช้สิทธิฯ อาทิ รถยนต์และยานยนต์อื่นๆ (ที่มีเครื่องดีเซล หรือกึ่งดีเซล) รถยนต์ขนส่งบุคคลขนาด 2,500cc ขึ้นไป ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ ปลาทูน่าปรุงแต่ง และรถยนต์ขนส่งบุคคลขนาดขนาด 1,000 – 1,500cc เป็นต้น

อันดับ 5 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) (มูลค่า 3,085.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 67.44% โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และมีการขยายตัวของการใช้สิทธิฯ อาทิ ลวดทองแดง สารประกอบออร์แกโน – อินออร์แกนิก เครื่องรับสำหรับวิทยุกระจายเสียง ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ และโพลิเมอร์ของไวนิลคลอไรด์หรือของฮาโลเจเนเต็ดโอลีฟิน เป็นต้น

สำหรับความตกลง RCEP ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 มีการส่งออกไปยัง 10 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมา มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 810.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 54.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญภายใต้ความตกลง RCEP อาทิ น้ำมันหล่อลื่น เครื่องดื่มชูกำลัง ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลังเส้น หัวเทียน เลนส์ ปริซึม และกระจกเงา และวัตถุเชิงทัศนศาสตร์ เป็นต้น 

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยมีความตกลงภายใต้ FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศคู่ค้า โดยการใช้สิทธิฯ จะเป็นกุญแจสำคัญที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ส่งออกไทยให้สามารถลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรขาเข้า ณ ประเทศปลายทางได้ ซึ่งเป็นการสร้างแต้มต่อทางภาษีและกระตุ้นการสั่งซื้อได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกจะต้องตระหนักรู้ถึงกฎ ระเบียบและมาตรการต่างๆ ที่เป็นไปตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อให้ได้รับสิทธิฯดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศพร้อมให้ข้อมูลและคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ผู้ประกอบการสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือโทรสายด่วน 1385 รวมถึงไลน์แอปพลิเคชัน ชื่อบัญชี “@gsp_helper”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

รัฐบาลแนะผู้ประกอบการไทยปรับตัว ปฏิบัติตามกฎตลาดโลก

รัฐบาลเสริมความเข้มแข็งสินค้าไทย ให้เท่าทันกฎระเบียบของทุกตลาด แนะผู้ประกอบการปรับตัว หลังสเปนจ่อออกกฎใหม่ เครื่องดื่มพสาสติกต้องใช้ฝาแแบยึดกับขวด

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น