
นายกฯ ยินดี 'ฟิทช์ เรทติ้งส์' คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ
22 ธ.ค.2564 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลและรู้สึกยินดีที่บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ซึ่งเปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าผลจากคงอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าว สะท้อนความเชื่อมั่นของความเข้มแข็งด้านนโยบายการเงินการคลังที่รอบคอบของรัฐบาล และ ขอบคุณที่ Fitch เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี สืบเนื่องจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่มีกลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมทำงานอย่างเข้มแข็งเห็นผลอย่างชัดเจนจนเป็นที่ยอมรับ
นายธนกรระบุอีกว่า Fitch ยังคาดการณ์ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยปี 2565 ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น โดย Fitch คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.5 เพราะมองว่ารัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนด้านการเงินการคลัง การส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การเพิ่มเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 จะช่วยเพิ่มพื้นที่ทางการคลังเพื่อการลงทุนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม สำหรับภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ของไทย Fitch ยังคงมองว่ามีความแข็งแกร่ง และคาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยจะกลับมาเกินดุลที่ร้อยละ 0.8 ต่อ GDP และร้อยละ 3.5 ต่อ GDP ในปี 2565 และปี 2566 ตามลำดับ หลังจากขาดดุลที่ร้อยละ 2 ในปี 2564
“รายงานของ Fitch สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายทางการเงินและการคลังอย่างรอบคอบ การกู้เงินก็เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และมีการดำเนินมาตรการทางการคลังอย่างมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากการได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โชว์แผนปฏิรูปกองทัพ ประหยัดงบลดนายพล
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกสภากลาโหม ถกแผนปฏิรูปกองทัพ
'จเด็จ' ปลุกผีตั้ง 'รัฐบาลแห่งชาติ' ผ่าทางตัน!
'ส.ว.จเด็จ' ไปไกล ปลุกผีรัฐบาลแห่งชาติ ชี้ประเทศไม่ขัดแย้งก็มีได้ แนะเอาข้อดีทุกพรรคมารวมกัน บอกชงงดเว้นรัฐธรรมนูญบางมาตราได้
'บิ๊กตู่' แจงยิบการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศ
'บิ๊กตู่ ร่ายผลงานบริหารหนี้สาธารณะของประเทศยิบ ยันเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งเศรษฐกิจไทย และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติ
'ทิพานัน' อวยผลงาน 'บิ๊กตู่' ทำดัชนีเชื่อมั่นในอีอีซีพุ่ง 87.1
'ทิพานัน' ชูผลงาน 'พล.อ.ประยุทธ์' บูมพื้นที่ EEC สะท้อนดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจเดือน พ.ค.พุ่งสูง 87.1 ปัจจัยหนุนจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม
รัฐบาลโชว์ตัวเลขภาระหนี้ประเทศยังอยู่ที่ 61.30% ไม่เกินเพดานกำหนด!
ครม.รับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ 61.30% ชี้ผลพวงหลักมาจากภัยโควิด ระบุความน่าเชื่อของไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ ภาคการคลังสาธารณะยังคงแข็งแกร่ง
นายกฯ ห่วงปัญหาโควิดแนะลูกหลานพากลุ่ม 608 มารับวัคซีน
นายกฯ ห่วงใยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังเป็นกลุ่ม 608 ย้ำให้ลูกหลานพาผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงมารับวัคซีนประจำปี เตียงรองรับผู้ป่วยภาพรวมใน กทม.และทั้งประเทศยังเพียงพอ อัตราครองเตียงอยู่ที่ 22%