‘สุรพงษ์’ คิกออฟเปิดใช้มอเตอร์เวย์ ‘บางใหญ่-กาญจนบุรี’ เริ่ม 27 ธ.ค. 66 – 3 ม.ค. 67 

‘สุรพงษ์’จุดพลุเปิดให้ทดลองใช้บริการมอเตอร์เวย์สาย ‘บางใหญ่-กาญจนบุรี’ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 66 – 3 ม.ค. 67 เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน  

27 ธ.ค.2566-นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานเปิดทดลองใช้บริการทางหลวงพิเศษระหวางเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี) ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก – ด่านกาญจนบุรี ว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง(ทล.) ได้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่- กาญจนบุรี เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง 

ทั้งนี้ยังเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทางและขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันตกของประเทศ ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยบนเวทีโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ในการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “คมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน”

สำหรับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี) พร้อมเปิดให้บริการในช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ตำบลวังตะกู อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ตัดกับทางหลวงหมายเลข 321 ที่ กม.6+200 จนถึง ด่านกาญจนบุรี ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ตัดกับทางหลวง หมายเลข 324 ที่ กม.8+400 ระยะเวลา 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2566 – 3 มกราคม 2567 โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 

ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ที่จะสามารถเดินทางในช่วงปีใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นับเป็นของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงคมนาคมมอบให้แด่พี่น้องประชาชน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและภาคตะวันตกได้เป็นอย่างดี 

หากเดินทางด้วยเส้นทางดังกล่าวจะใช้เวลาเพียง 30 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับ ทางหลวงแผ่นดินปกติ (ทล.4 และ ทล.323) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที 

สำหรับบริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง จะมีการกั้นแนว Barrier ชั่วคราว ทั้ง 2 ทิศทาง เพื่อกั้นขอบเขตระหว่างพื้นที่ก่อสร้างภายในด่านฯ และพื้นที่ที่เปิดให้รถยนต์สัญจร รวมทั้งมีการจัดเจ้ารหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้วย 

ด้านนายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยการก่อสร้างงานโยธามีความก้าวหน้า ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยรวมประมาณ  95.96 %ส่วนงานติดตั้งระบบ เช่น ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบบริหารจัดการและควบคุมการจราจร เป็นต้น จะดำเนินการในรูปแบบ PPP ซึ่งกรมทางหลวงได้ลงนามสัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) 

โดยการร่วมลงทุนในครั้งนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ  ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง พร้อมติดตั้งงานระบบ และองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะเป็นผู้ออกแบบและลงทุนก่อสร้างติดตั้งงานระบบและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย งานก่อสร้างด่านและติดตั้งระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow งานระบบควบคุมและบริหารจัดการจราจรอัจฉริยะ งานระบบโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสง และระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนสายทาง งานอาคารศูนย์ควบคุม และอาคารสำนักงานต่างๆ โดยมีความก้าวหน้าเดือนพฤศจิกายน 2566 รวม 32.06 %

ระยะที่ 2 งานดำเนินงานบริหารจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางและบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมด เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่เปิดให้ประชาชน โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะทำหน้าที่จัดเก็บค่าผ่านทางและนำส่งรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมดให้แก่กรมทางหลวง บริหารจัดการและควบคุมการจราจร ซึ่งรวมถึงงานกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนซ่อมบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมดของโครงการเป็นเวลา 30 ปี โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับค่าก่อสร้างงานระบบ และค่าตอบแทนสำหรับการดำเนินงานและบำรุงรักษา 

ทั้งนี้ ในส่วนการให้เอกชนร่วมลงทุนและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) กรมทางหลวงอยู่ระหว่างสรุปรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ และเริ่มการคัดเลือกการดำเนินงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน  สำหรับรูปแบบโครงการเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 4 ถึง 6 ช่องจราจร มีระยะทางรวม 96 กม. มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอนนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ด้านตะวันตก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จุดสิ้นสุดอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี – อ.พนมทวน) ผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี 

โดยในแนวเส้นทางมีด่านเก็บค่าผ่านทาง  8 แห่ง ได้แก่ ด่านบางใหญ่ ด่านนครชัยศรี ด่านศรีษะทอง ด่านนครปฐมฝั่งตะวันออก ด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี มีที่พักริมทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้ทาง จำนวน 3 ตำแหน่ง 6 แห่ง แบ่งออกเป็น สถานบริการทางหลวง จำนวน 2 ตำแหน่ง ที่ อ.นครชัยศรี และ อ.เมืองนครปฐม และสถานที่พักริมทาง จำนวน 1 ตำแหน่ง ที่ อ.ท่ามะกา 

สำหรับการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี และเปิดให้บริการ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้ จะช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจร ตั้งแต่ช่วงจังหวัดนครปฐม จนถึง จังหวัดกาญจนบุรี 

ได้ประมาณ 20%หรือ 9,000 คันต่อวัน จากปริมาณจราจรบนถนนแสงชูโตช่วงปกติมีปริมาณการจราจรอยู่ที่ 35,000 คันต่อวัน และช่วงเทศกาลอยู่ที่ 45,000 คันต่อวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกและช่วยลดระยะเวลาเดินทางให้แก่ประชาชนที่ต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดกาญจนบุรีได้ ถือเป็นหนึ่งในของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงคมนาคมมอบให้ประชาชนเพื่อความอุดมสุขของคนไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมช.คมนาคม ย้ำป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายและเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์

‘รถไฟฟ้าสายสีแดง’ เพิ่มเวลาเปิดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์

‘รถไฟฟ้าสายสีแดง’ แจ้งขยับเวลาเปิดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์เร็วขึ้น จากตี 5 เป็น ตี 4 รวม 4วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน เชื่อมต่อการเดินทาง พร้อมจัดมาตรการคุมเข้มความปลอดภัย

’สุรพงษ์’ สแกนความพร้อมหมอชิต 2 ก่อนส่งคนเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์

‘สุรพงษ์’ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมสถานีขนส่งฯ หมอชิต2 สั่งจัดรถโดยสาร-เที่ยวเสริมเพียงพอ -เน้นย้ำความปลอดภัย-อำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 67

'เต้ ทวิวงศ์' โร่เคลียร์ดรามา! ค้านรถไฟความเร็วสูงอยุธยา

'เต้ ทวิวงศ์' โต้ดรามาค้าน 'รถไฟความเร็วสูง' ผ่านอยุธยา ยันบริสุทธิ์ใจ ขออย่ามัดมือชกชาวบ้าน บี้ 'สุริยะ-สุรพงษ์' แจง 5 ข้อ ลั่นโดนถอดพ้นมรดกโลกใครรับผิดชอบ

ดีเดย์ 1 ก.พ.นี้ ’สายสีชมพู’ เตรียมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ 30 สถานี

‘สุรพงษ์’ลงพื้นที่สแกนความพร้อมรถไฟฟ้า สายสีชมพู เตรียมเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบ ครบ 30 สถานี เริ่มเก็บค่าโดยสาร 15 – 45 บาท ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้

'สุรพงษ์' สั่ง บวท.เตรียมพร้อมอู่ตะเภารับนักท่องเที่ยวจีน

วิทยุการบินฯ -อู่ตะเภา และจีน ถกแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการบิน รองรับปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพทางการบินในปัจจุบันและอนาคต ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ