'นภินทร' นำทัพไทยประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ถกหารือเจรจา FTA

​สปป.ลาว นั่งหัวโต๊ะประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนัดแรก ประกาศแผนงานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2567 ผ่าน 3 กลไก ซึ่งเน้นให้อาเซียนเชื่อมโยงกระบวนการผลิตโลกตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และวางรากฐานอาเซียนมุ่งสู่การพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืน และก้าวสู่ภูมิภาคดิจิทัล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อภาคธุรกิจเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกัน

10 มี.ค. 2567- นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 30 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 ณ แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เห็นชอบแผนงานสำคัญที่เป็นกรอบการทำงานของเสาเศรษฐกิจอาเซียนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2567 ภายใต้วาระการเป็นประธานอาเซียนของ สปป.ลาว
นายนภินทรฯ กล่าว่า อาเซียนให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ภาคี เพื่อให้อาเซียนเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการการผลิตของโลก ผ่าน FTA สองฉบับสำคัญของอาเซียน ได้แก่ (1) การเร่งรัดให้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ มีผลใช้บังคับภายในปี 2567 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนจากความตกลงฯ ที่ปรับปรุงพันธกรณี ให้มีความทันสมัย รองรับกับรูปแบบการค้ายุคใหม่ รวมทั้งเปิดโอกาสและอำนวยความสะดวกในการส่งออกไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มากขึ้น และ (2) การผลักดันการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ให้มีความคืบหน้าสำคัญ เช่น การลดและยกเลิกภาษีสินค้าเพิ่มเติม การเปิดเสรีด้านการลงทุน และความร่วมมือกับจีนในสาขาใหม่ ๆ อาทิ การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจ สีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล

ในขณะที่ อาเซียนเร่งพัฒนาด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคแล้ว ยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนให้สอดรับกับแนวโน้มการพัฒนาของภูมิภาค ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจสีเขียว ให้เป็นที่ยอมรับในสากล ผ่านการจัดทำยุทธศาสตร์ลดช่องว่างการพัฒนาและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ อาเซียนได้เตรียมวางรากฐานของภูมิภาคเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผ่านแผนงานสำคัญ อาทิ (1) การปรับปรุงระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว ให้เป็นรูปแบบใหม่ ที่สามารถเชื่อมโยงแพลตฟอร์มทางการค้าใหม่ ๆ เข้ากับระบบปัจจุบัน (2) การจัดทำ Roadmap เพื่อสร้างให้การค้าดิจิทัลในอาเซียนมีมาตรฐานเดียวกัน และ (3) การพัฒนาหมายเลขทะเบียนนิติบุคคลเดียวที่สามารถเทียบเคียงและยอมรับร่วมกันได้ในอาเซียน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้พร้อมกับการค้ายุคใหม่

นายนภินทรฯ กล่าวเสริมว่า อาเซียนได้คำนึงถึงระดับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัลที่ต่างกันของประเทศสมาชิก จึงเตรียมเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลอย่างเต็มที่ ผ่านการจัดทำความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดทิศทางการค้าดิจิทัลในอาเซียน ให้ประเทศสมาชิกมีกรอบกติกาด้านการค้าดิจิทัลที่เหมือนกัน เปิดกว้าง และปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้านดิจิทัลระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยให้การประกอบธุรกิจและผู้บริโภคได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และจะช่วยส่งเสริมการค้าสินค้าและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องให้เติบโต รวมทั้งดึงดูดการลงทุนจากทั้งภายในและภายนอกภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ภูมิภาคก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลก ภายในปี 2030

นายนภินทรฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนัดประชุมติดตามผลการดำเนินการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2567 ก่อนนำเสนอผลลัพธ์สำคัญต่อผู้นำอาเซียนในเดือนตุลาคม ศกนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนแรงงาน 3 สัญชาติ MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับปท. ภายใน 30 เม.ย. นี้

‘คารม’ เตือนแรงงาน MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางภายใน 30 เม.ย นี้ แนะนายจ้าง/ผู้ประกอบการยื่นคำร้อง นจ. 2 ล่วงหน้า หากประสงค์จะนำแรงงานกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง

ห่วงปชช. 7 จ. ริมน้ำโขง หลังสารเคมีรั่ว สั่ง สทนช. เฝ้าระวังถึง 12 เม.ย.

'สมศักดิ์' ห่วงชาวไทย-ลาว หลังสารเคมีรั่วลงแม่น้ำโขง สั่ง สทนช. เกาะติดใกล้ชิด แจงตรวจคุณภาพน้ำ จ.เลย ใช้ได้ปกติ แต่ยังเฝ้าระวังถึง 12 เม.ย.

‘นภินทร’ จับมือเจโทรแนะผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA

เปิดสัมมนาร่วมเจโทร #ติดอาวุธ MSME ทั้งไทย-ญี่ปุ่น ชี้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เร่งอัดฉีดความรู้การใช้สิทธิประโยชน์ผ่าน FTA ให้ผู้ประกอบการ

ม่วนซื่นพี่น้องไทยลาว 'บิ๊กป้อม' ยกทีม พปชร.ข้ามโขง กระชับความสัมพันธ์ 'นายกฯสปป.ลาว'

“ประวิตร” ยกทีม พปชร.เยี่ยมพบปะหารือ”นายกฯสปป.ลาว”กระชับความสัมพันธ์ แก้ฝุ่น P.M 2.5 ชายแดน หนุนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อ ปชช.สองฝั่งโขง

พาณิชย์เปิดสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรไทย 2.8 แสนล้านเหรียญ

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับรายงานข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)