‘ศักดิ์สยาม’ ส่งคนกลับบ้านย้ำนโยบาย ‘ปีใหม่ปลอดโควิด-19 ปลอดอุบัติเหตุทางถนน’

คมนาคมจับมือภาคีเครือข่ายเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “ปีใหม่ปลอดโควิด-19 ปลอดอุบัติเหตุทางถนน” เน้นย้ำต้องส่งพี่น้องประชาชนกลับบ้าน   ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ-โควิด

30 ธ.ค.2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “ปีใหม่ปลอดโควิด-19 ปลอดอุบัติเหตุทางถนน” ซึ่งจัดโดย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ และภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วม

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และอุบัติเหตุบนท้องถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 3 มกราคม 2565 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วันและมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนารวมถึงเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือ เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัย และดูแลประชาชนให้เดินทางช่วงเทศกาลโดยสวัสดิภาพตลอดเส้นทาง ควบคู่กับการดำเนินงานตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19

อย่างไรก็ตามโดยในช่วงปีใหม่นี้กระทรวงฯ ได้กำหนดนโยบายอำนวยความสะดวกในการบริการขนส่งสาธารณะและโครงข่ายคมนาคมอย่างบูรณาการ โดยยึดหลัก “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกล COVID-19” กำชับหน่วยงานในสังกัดบูรณาการร่วมกันอำนวยความสะดวกประชาชน และเข้มงวดกวดขันการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยถือปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และคำสั่ง ศบค. อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้โดยเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการรณรงค์สร้างการใส่ใจในประชาชน ทั้งให้ใส่ใจตนเองและใส่ใจต่อผู้ร่วมทาง การรักษากฎจราจร ขับขี่มีอย่างมีน้ำใจ ใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัยหรือหมวกนิรภัยตลอดการเดินทาง และที่สำคัญคือ เมาไม่ขับ และง่วงต้องพัก พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และล้างมือบ่อย ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในส่วนของ บขส. ได้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด นอกจากนี้ บขส. ได้จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้สำหรับบริการประชาชนทุกจุดให้บริการ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และดำเนินการตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม บขส. พร้อมทำตามมาตรการป้องกันด้วยการสุ่มตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK กับผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา

โดย บขส. ได้รับการสนับสนุนจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นำรถโมบายเคลื่อนที่พระราชทาน มาตรวจคัดกรองเชื้อไวรัส COVID-19 ให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 28 – 31 ธันวาคม 2564 และวันที่ 1 – 3 มกราคม 2565 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บริเวณประตูทางเข้า ชั้น 1 และ 3 ด้านหน้าอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร)

สำหรับด้านการป้องกันอุบัติเหตุ กระทรวงฯ และ บขส. มีนโยบายที่สำคัญ คือ ต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน พนักงานที่ขับรถโดยสารสาธารณะต้องปฏิบัติตามมาตรการ ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการเข้มงวดในเรื่องการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การโทรแล้วขับ และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะของ บขส. ขสมก. และรถร่วมฯ ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีการลงโทษตามลำดับ ตั้งแต่ตัดเงินเดือน ให้ออก จนถึงไล่ออกในที่สุด

เนื่องจากผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับรถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยเป็นเจตนาละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ในส่วนของมาตรการรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 พร้อมเสนอแนวทางอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระยะเวลารวม 7 วัน ตั้งเป้าหมายการดำเนินการช่วงวันหยุดยาว ดังนี้

1. บริการระบบขนส่งสาธารณะให้เข้าถึงง่าย เพียงพอไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา ไม่ทิ้งผู้โดยสาร และทันกับเหตุการณ์

2. ให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในคุณภาพของการให้บริการขนส่งสาธารณะ ด้วยการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นและจริงจัง

3. กำกับและควบคุม ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

4. บริหารจัดการจราจรทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ให้มีความคล่องตัวและไม่ติดขัด

5. บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ได้มีการจัดเสวนา “ฉลองปีใหม่อย่างไร? ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ” โดยมีเหยื่อเมาแล้วขับมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เนื่องจากสถิติอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ 2564 พบว่า มีผู้เสียชีวิต จำนวน 392 ราย และผู้บาดเจ็บ จำนวน 3,326 ราย สาเหตุหลักเกิดจากการเมาแล้วขับ นอกจากนี้ ภาคีเครือข่ายได้นำหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สติกเกอร์กิจกรรม แผ่นพับคู่มือการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และคู่มือการเดินทางปีใหม่อย่างไรให้ปลอดภัยมาแจกให้ประชาชนภายในงานด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงฯ และ บขส. ขอความร่วมมือให้ประชาชนร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยง ทั้งการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยการรักษากฎจราจร ขับขี่อย่างมีน้ำใจ  มีสติในการขับรถ ไม่ประมาท ใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัยหรือหมวกนิรภัยตลอดการเดินทาง และที่สำคัญคือ เมาไม่ขับและง่วงต้องพัก รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเข้มงวด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงกรานต์ 2567 คุมเข้ม 11-17 เม.ย. สตช.เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุ คาดกลับภูมิลำเนามากกว่าปี 66

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2567 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เปิดตัวเลขความสูญเสียเปิดสถานบริการถึงตี 4 ผงะ! เพิ่มขึ้นทั้ง 5 จว. จี้ถึงเวลาทบทวน

นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่บทความเรื่อง ความสูญเสียจากนโยบายนำร่องเปิดสถานบริการผับบาร์ถึงตี 4 ถึงเวลาทบทวนหรือยัง? มีเนื้อหาดังนี้

เปิดคำวินิจฉัย ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย ชี้ความเป็นรมต. 'ศักดิ์สยาม' ไม่สิ้นสุดลง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 1 เสียง ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)

"พิพัฒน์" Kick off มาตรฐานแรงงานไทยในงานขนส่ง มรท.8003-2566 ลดการสูญเสียจากยานพาหนะ สนับสนุนสถานประกอบกิจการเข้าร่วม

วันที่ 29 มกราคม 2567 เวลา 10.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน Kick off มาตรฐานแรงงานไทยในงานขนส่ง มรท.8003-2566 ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์