'กีรติ' เร่งเครื่องภายในหนึ่งปี ดัน 'สุวรรณภูมิ' ขึ้นแท่น 1 ใน 50 สนามบินดีที่สุดในโลก

‘กีรติ’กางแผนภายใน1ปี ดัน ’สุวรรณภูมิ‘ขึ้นแท่น 1 ใน 50 ของสนามบินโลก ลุยแก้แออัดสนามบิน ส.ค.นี้เล็งนำ Aouto Gate จำนวน 80  Gate ให้ ตม.ใช้ มั่นใจจะทำให้กระบวนการเร็วขึ้น

30 เม.ย.2567-นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า กรณีที่เว็บไซต์ Skytrax ได้จัดอันดับการให้บริการของสนามบินในปี 2024 โดยพบว่า สนามบินสุวรรณภูมิ ติดอันดับที่ 58 สนามบินดอนเมือง ติดอันดับ 10 ของสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก และทางนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้สนามบินสุวรรณภูมิขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 50 ของโลก ภายใน 1 ปีนั้น ยืนยันว่าตนจะทำทุกวิธีทางในการเพิ่มศักยภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกการบริการให้กับผู้โดยสาร  

สำหรับสาเหตุที่ทำให้การจัดอันดับของสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นมา เนื่องจากว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่ตนดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ได้มีการพัฒนาการให้บริการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ซึ่งทำให้การบริการผู้โดยสารได้รวดเร็วขึ้น จากตัวเลขเดิมจากปี 65 ติดอันดับอยู่ที่ 78 ของโลก ปี66 อยู่อันดับที่ 68 ของโลก ซึ่งการจัดอันดับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้บริการผู้โดยสาร

“เนื่องจากตอนนี้ผู้โดยสารที่เดินทางจากสุวรรณภูมิยังมีความรู้สึกว่ายังมีความแออัดหนาแน่นอยู่ โดยกระบวนการของผู้โดยสารหลักๆคือ เช็คอิน ตรวจค้น และ ตม. ปัจจุบันสิ่งที่ปรับปรุงไปมากแล้วคือเรื่องของการตรวจค้นและกระบวนการของ ตม. ที่ขณะนี้ภาพรวมระยะเวลาเฉลี่ยที่ 37 นาที เฉลี่ยเป็นตรวจค้น 15 นาที ตม. 22 นาที จากเดิมที่ทั้งกระบวนการอยู่ที่ 40-50 นาที ส่วนมาตรฐานสากลอยู่ที่ 45 นาที ”นายกีรติ กล่าว

ทั้งนี้ ได้ลดขั้นต้นการตรวจค้น และ ตม.มีการออกแบบขั้นตอนให้รวดเร็วขึ้น รวมถึงเพิ่มเจ้าหน้าที่ ตม.อีกประมาณ 200 คน แม้ว่าระยะเวลาของกระบวนการดังกล่าวจะดีขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถึงเป้าที่ทางรัฐบาลวางไว้คือขั้นตอนละ 15 นาที ซึ่งในเดือน ส.ค.นี้ จะมีเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ(Auto Gate)จำนวน 80 Gate เพื่อให้ทาง ตม.ใช้ เพื่อให้กระบวนการขาออกรวดเร็วขึ้น

ขณะที่เรื่องตรวจค้น ทอท.ก็มีแผนจะเพิ่มจุดตรวจค้นอีก 10 ช่อง เพื่อช่วยให้กระบวนการต่างๆมีความคล่องตัวมากขึ้น ส่วนเรื่องเช็คอินที่เป็นปัญหาหนักสุด ได้เร่งรัดให้สายการบินใช้ระบบ Self Check-In ที่สามารถเช็คอินได้ถึง 4 ชั่วโมงล่วงหน้า เพื่อแยกผู้โดยสารออกมา 

นอกจากนี้ ยังได้วางแผนออกแบบเพื่อขยายขีดความสามารถสนามบินในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี สนามบิน ทอท.จะต้องติด1ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยทำให้อันดับขยับขึ้นได้คือ เราต้องขยายเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มพื้นที่พักคอย บริการในอาคารผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

โดย ทอท. มีแผนที่จะสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออก  หรือ East Expansion ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่มากขึ้นในการรองรับผู้โดยสาร ทั้งพื้นที่ตรวจค้น และ และพื้นที่พักคอย ขณะเดียวกัน ทอท.จะนำเทคโนโลยีการตรวจสอบ CT Scanมาใช้ เพื่อที่จะสามารถน้ำ หรือเครื่องดื่มขึ้นเครื่องได้    รวมถึงจะนำเทคโนโลยีแสกนหน้ามาใช้ที่สุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารที่มาจาก 91 ประเทศสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ก่อนเข้าประเทศได้

เพิ่มเพื่อน