ร้อนไม่ไหว! ยอดใช้ไฟคืน 29 เม.ย. ทุบสถิติทะลุ 3.6 หมื่นเมกฯ

สนพ. เผยเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ได้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีก) ของประเทศไทยอยู่ที่ 36,699.9 เมกะวัตต์ ที่อุณหภูมิ 31.8 องศาเซลเซียส ทุบสถิติรอบที่ 9 ของปี

30 เม.ย. 2567 – นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ได้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีก) ของประเทศไทยอยู่ที่ 36,699.9 เมกะวัตต์ ที่อุณหภูมิ 31.8 องศาเซลเซียส เนื่องจากอากาศร้อนจัด และเป็นช่วงกลางคืนที่ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์) ผลิตไฟไม่ได้ประชาชนจึงต้องมาใช้ไฟฟ้าในระบบแทน

ทั้งนี้ ยังถือเป็นพีคไฟฟ้าสูงสุดรอบที่ 9 ของปี 2567 ด้วย โดยพีคไฟฟ้าของปี 2567 ได้เกิดขึ้นดังนี้ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989.3 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827.1 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,196.5 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2567 เวลา 22.22 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,277.4 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2567 เวลา 20.54 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,656.4 เมกะวัตต์ และครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 เวลา 20.58 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 35,830 เมกะวัตต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวเลขระดับกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ซึ่งเป็นการคำนวณจากกำลังผลิตไฟฟ้าที่คาดว่าจะสามารถผลิตได้จริงของโรงไฟฟ้าแต่ละชนิดในช่วงที่จะเกิดไฟพีกเทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด พบว่าประเทศไทยยังคงมีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองอยู่ที่ประมาณ 25.8% ลดลงจากปีที่ผ่านมา

เพิ่มเพื่อน