“สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” รุกขยายโครงการใหม่ ปักธงใจกลางภูเก็ตสร้างโกลบอลเดสติเนชั่นแห่งใหม่ พร้อมเปิดให้บริการปี 2569
3 กันยายน 2567– บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างสองผู้นำแห่งวงการค้าปลีกระดับโลก ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นชั้นนำของไทย กับ ไซม่อน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการระดับโลกที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้ง ไดน์นิ่ง ความบันเทิง และโครงการมิกซ์ยูส จากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการลงทุนขยาย “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งที่ 2 ของประเทศไทย โดยปักธงใจกลางจังหวัดภูเก็ตเมืองแห่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวแห่งใหม่แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ช่วยส่งเสริมและเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย โดยตั้งเป้าเปิด “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ภูเก็ต” ภายในปี 2569
บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเปิด “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2563 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพ-ชลุบรีสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 7) ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเป็นการนำประสบการณ์พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตอย่างแท้จริงสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น ประกอบด้วยร้านค้าที่นำเสนอแบรนด์มากกว่า 300 แบรนด์ ทั้งร้านค้าลักชัวรี่- แบรนด์ แบรนด์ของดีไซเนอร์ที่เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมสูงสุด รวมถึงแบรนด์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล และแบรนด์ไทยต่างๆ โดยมีไฮไลท์แบรนด์ที่มีเฉพาะที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น อาทิ Balenciaga, Burberry, Versace, Marc Jacobs, Karl Lagerfeld, Rebecca Minkoff, Longchamp, Boss, Montblanc, Swiss Watch Gallery, Fred Perry, Nike United SPO, Pomelo, Siam Takashimaya เป็นต้น นับเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งที่สำคัญอีกแห่งของประเทศไทย ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
โดยผลประกอบการของ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ในปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องโดยตลอด และปัจจุบันอัตราการเช่าพื้นที่ของโครงการเต็ม 100%
จากความสำเร็จอย่างสูงและการมีวิสัยทัศน์เดียวกันของสยามพิวรรธน์และไซม่อน บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก จึงตัดสินใจเดินหน้าขยายการลงทุนเปิดโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของ ทัวร์ริสต์อันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งใน Global Destination ของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลก และเป็น location จุดหมายสำคัญที่กลุ่มผู้ประกอบการทั้งผู้เช่าเดิมในโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” และผู้เช่าใหม่จำนวนมากต่างแสดงความต้องการและให้ข้อเสนอแนะให้บริษัทฯ ลงทุนขยายโครงการใหม่
โดยโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ภูเก็ต” จะถูกรังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์พิเศษที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสําหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยคํานึงถึงการตอบสนองความต้องการในปัจจุบันและรองรับการเติบโตของภูเก็ตในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้า
สำหรับโลเคชั่นของ โครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดภูเก็ต มุ่งรองรับการเติบโตของเมืองที่มีการขยายตัวทุกทิศทาง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตต่อปีไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคน รวมถึงคนไทยในพื้นที่และชาวต่างชาติที่มาพำนักอยู่เป็นระยะเวลานาน (Expat) มีกำลังซื้อสูง โดยพบว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวในภูเก็ตอยู่ในระดับค่อนข้างสูงคือ 8,355 บาทต่อคนต่อวัน
สำหรับศักยภาพความพร้อมด้านกำลังซื้อของจังหวัดภูเก็ต สามารถสะท้อนจากจำนวนห้างค้าปลีกที่มีมากถึง 14 แห่ง และไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 19 แห่ง รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่มีมากถึง 15 แห่ง นอกจากนี้ภูเก็ตยังมีจุดแข็งในด้านความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งรถสาธารณะที่หลากหลายพร้อมให้บริการ รวมถึงถนน และทางหลวงที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีสนามบินที่สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งได้ถึง 20 ล้านคนต่อปี และโครงการสนามบินนานาชาติอันดามัน จ.พังงา ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่งผลให้วันนี้จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพเต็มที่ในการรองรับการลงทุนใหม่ๆ และนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก
บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด เป็นการผนึกกำลังระหว่างสองผู้นำแห่งวงการค้าปลีก ที่จะสามารถนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่อันน่าตื่นเต้นเร้าใจให้กับวงการค้าปลีกภูเก็ตอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และสร้างจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทยอีกด้วย
________________________________
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผอ.ศรชล.ภาค 3 สั่งเร่งตามหาเรือคู่กรณี ชนเรือฟลามิงโก้เลดี้ 2 เกิดเหตุไฟไหม้
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชลภาค3) เปิดเผยว่า จากการที่เรือฟลามิงโก้เลดี้ 2 ประสบเหตุเพลิงไหม้ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่ของ สำนักงาน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต
'ภูเก็ต' เจ๋ง! คว้า 2 รางวัลโลก สร้างชื่อเสียงประเทศไทย
ข่าวดี! 'ภูเก็ต' คว้ารางวัล 2 รางวัลใหญ่ สร้างชื่อเสียงประเทศไทย 'เมืองเทศกาลโลก' ปี 2024 พ่วงงาน 'ประเพณีถือศีลกินผัก'
'ภูเก็ต' จับตาสถานการณ์ 24 ชม. หลังฝนถล่มต่อเนื่อง น้ำทะเลหนุนสูง
งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา นายศุภโชค ละอองเพชร นายสุทธิพันธ์ สกุลเทพ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต
สัมผัสบรรยากาศสุดชิลประสบการณ์พักผ่อนที่ไม่เหมือนใครที่ Beyond KATA Resort & Hotel
บียอนด์ กะตะ รีสอร์ท หนึ่งในรีสอร์ทสุดคลาสสิกริมหาดกะตะ ซึ่งหาดนี้ถือเป็นหาดที่สวยติด 1 ใน 3 ของจังหวัดภูเก็ต รีสอร์ทแห่งนี้เป็นหนึ่งในเครือของ Beyond โดยมีคอนเซปต์สุดปัง ”SENSE OF SEA” ที่จะสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ และสัมผัส ความรู้สึกที่มีต่อท้องทะเล ด้านหน้ารีสอร์ทจะมีลานสนามหญ้ากว้างๆ ติดริมหาด พร้อมวิวทะเลอันดามันที่สวยงามเหมาะกับสาวๆนั่งชิวเพื่อทำคอนเท้นท์อัพลงโซเชียลเป็นอย่างมาก พร้อมที่พักสุดคลาสสิกและสิ่งอำนวยความสะดวก แค่ได้ยินคอนเซปต์ยังจึ้งขนาดนี้พลาดไม่ได้แล้ว เตรียมเก็บกระเป๋าไปเข้าพักกันได้เลย! ในส่วนของที่พักติดหน้าหาด รีสอร์ทมีห้องพักหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องมีวิวทะเลหรือจะมีสระว่ายน้ำผ่านหน้าห้องพักพร้อมถ่ายรูปอัพลงโซเชียลเกร๋ๆได้ทั้งวัน โดยวันนี้จะมาแนะนำ ห้อง Pool Access เป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวพร้อมสระว่ายน้ำหน้าห้อง อีกทั้งยังมีมุมจากุซซี่ที่สามารถลงไปแช่ตัวเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ สิ่งอำนวยความสะดวกครบจบในห้องเดียว ดีขนาดนี้ ไม่มาพักไม่ได้แล้ว เมื่อออกมาตรงลานริมหาด ทางรีสอร์ทจึงมีบริการ “Beach Picnic” เป็นการจัดเซต Light meal ประกอบไปด้วย ของหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม ไวน์ และ พิซซ่าเตาถ่านอีกหนึ่งถาด
เมืองไข่มุกแห่งอันดามัน “รวมพลสวัสดิการชุมชน สานพลังความร่วมมือ ราษฎร์-รัฐ-เอกชน สร้างสังคมเอื้ออาทร
ภูเก็ต / เครือข่ายองค์กรสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ต 18 อปท. ร่วมกันจัดสมัชชาสวัสดิการชุมชนครั้งที่ 15 “สวัสดิการชุมชน พลังความร่วมมือ ราษฎร์-รัฐ-เอกชน