สศอ. ปรับกรอบ MPI อีกรอบ คาดติดลบ 1.6% หลังสถานการณ์ภาคอุตฯยังไม่ฟื้น

สศอ. ปรับกรอบ MPI อีกรอบ คาดติดลบ 1.6หลังสถานการณ์ภาคอุตฯยังไม่ฟื้น หนี้ครัวเรือน และ NPL สูง ลุ้นปี 68 กลับมาขยายตัว 1.5-2.5เผยภาพรวม 10 เดือน หดตัวเฉลี่ย 1.63%

 27 พ.ย. 2567 – นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ. ได้ทำการปรับประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ ติดลบ 1.6% และการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรมจะติดลบ 1.0% จากกรอบเดิมที่คาดว่า MPI จะอยู่ที่ ติดลบ 1.0 ถึง 0.0% และGDP ภาคอุตสาหกรรมจะติดลบ 0.5% ถึงขยายตัว 0.5% เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันอื่น ๆ อาทิ ความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในหลายภูมิภาค ความไม่แน่นนอนของนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ และต้นทุนการผลิต ค่าครองชีพ หนี้สินภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง

ขณะที่ตัวเลข MPI งวดเดือนต.ค. 2567 อยู่ที่ระดับ 93.41 หดตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 57.75% ส่งผลให้ภาพรวม 10 เดือนแรกปี 2567 หดตัวเฉลี่ย 1.63% และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 58.72% โดยปัจจัยที่ส่งผลลบต่อภาคการผลิต ได้แก่ ปัญหาขาดกำลังซื้อภายในประเทศ หนี้ครัวเรือน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับสูง ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงสินค้านำเข้าจากต่างประเทศทะลักเข้าไทย ผู้บริโภคมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้านำเข้ามากขึ้นเนื่องจากราคาถูกกว่า และความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเงิน 10,000 บาท เฟสแรก การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคบริการและการผลิตรองรับสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการค้าระหว่างประเทศของไทยกับคู่ค้าหลักยังมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวและการบริการยังมีทิศทางขยายตัว รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ สศอ. คาดการณ์ประมาณการตัวเลขดัชนี MPI และ GDP ภาคอุตสาหกรรมปี 2568 จะกลับมาขยายตัว 1.5 – 2.5%

นายภาสกร กล่าวว่า ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนพ.ย. 2567 “ส่งสัญญาณเฝ้าระวังต่อเนื่อง” โดยปัจจัยภายในประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังต่อเนื่อง เนื่องจากยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์และพื้นที่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ด้านความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากความคาดหวังถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังต่อเนื่องเช่นเดียวกัน จากภาคการผลิตในสหภาพยุโรปที่ซบเซาและญี่ปุ่นที่เริ่มชะลอตัว ส่วนในสหรัฐอเมริกามาจากความกังวลต่อนโยบายทางเศรษฐกิจและการค้าของรัฐบาลชุดใหม่

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนต.ค. 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เครื่องจักรอื่น ๆ ที่ใช้งานทั่วไป ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28.98% คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.18% สัตว์น้ำบรรจุกระป๋อง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.24% ขณะที่อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบ MPI ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ น้ำมันปาล์ม และชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตือนผู้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัสกว่า 14 ล้านรีบใช้สิทธิให้หมดในสิ้นปี!

รัฐบาลย้ำเตือนได้รับสิทธิ์ 'คนละครึ่งพลัส' กว่า 14 ล้านคน รีบใช้สิทธิใช้จ่ายเงินผ่านโครงการฯ ให้หมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ เชิญชวนร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่งพลัส รีบพัฒนาทักษะสำเร็จ ภายใน 19 ธ.ค.นี้

นักวิชาการ มธ. หนุนเพิ่มสมทบประกันสังคม แนะรัฐลดภาษีช่วยผู้ประกอบการ

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม ระบุต้องแยกส่วนระหว่าง “ประสิทธิภาพในการบริหาร-การเพิ่มเงินสมทบ” เพราะสองเรื่องพัฒนาไปพร้อมกัน