เซนทารา จี้รัฐออกมาตรการปล่อยห้องชุดรายวันให้ต่างชาติ ชี้ปริมาณนักท่องเที่ยว ไม่สำคัญเท่านักเดินทางคุณภาพที่พร้อมจ่าย

เซนทารา เผยรัฐบาลควรมีมาตรการรับกรณีปล่อยห้องชุดให้นักท่องเที่ยวพักรายวัน ชี้ปริมาณไม่สำคัญเท่ากับการได้นักเดินทางคุณภาพพร้อมจ่าย ประกาศแผนปี 68 ลุยธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

28 ก.พ. 2568 – นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการปล่อยห้องชุดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพักรายวันนั้น ภายในโครงการที่พักอาศัยหรือคอนโดมิเนียม ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้น มองว่าภาครัฐควรมีมาตรการออกมารองรับ จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโรงแรม จะมีต้นทุนทางด้านต่างๆ ทั้งการขอใบอนุญาตและขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็คาดหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีวิธีการดำเนินงานที่จริงจังออกมา เหมือนกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“จริงๆ ประเด็นนี้ไม่ใช่แค่ว่ากระทบกับผู้ประกอบการโรงแรมที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย แต่มันยังเป็นเรื่องของภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้วย และการที่มีนักท่องเที่ยวในเชิงปริมาณ อาจไม่สำคัญเท่ากับการได้นักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่พร้อมจับจ่ายให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งพอดูแบบนี้แล้ว เขาอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ และไม่ยุติธรรมทั้งกับผู้ประกอบการโรงแรม และคนที่พักอาศัย ซึ่งอาจได้รับความเดือดร้อนจากนักท่องเที่ยว หลายประเทศเขามีเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่าห้องชุดลักษณะนี้ ก็คงต้องพิจารณาดูและมาปรับใช้” นายธีระยุทธ กล่าว

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 วางเงินลงทุนไว้ประมาณ 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายโรงแรม อาหาร และโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เบื้องต้นตั้งเป้าเปิดโรงแรมและรีสอร์ทอีกทั้งสิ้น 9 แห่งในปีนี้ โดยหลังจากที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในกระแส อย่างเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ (ให้บริการห้องพัก 142 ห้อง) ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้แล้ว ยังมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่งรอเปิดให้บริการอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท และโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น อีกหนึ่งแห่งบนเกาะบาหลี ที่จะกลายมาเป็นรีสอร์ทแรกภายใต้เครือเซ็นทาราในประเทศเนปาลและอินโดนีเซีย รวมถึงโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา และเรสซิเดนซ์ วังดอน และคริสตัล ฮอลิเดย์ ฮาร์เบอร์ วังดอน ที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีห้องพักให้บริการทั้งสิ้นถึง 977 ห้องด้วยกัน

อย่างไรก็ดี การขยายธุรกิจในไทย จะไปยังแหล่งท่องเที่ยว เช่น บนเกาะพีพี, เกาะสมุย และในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่และการปรับโฉมโรงแรมต่างๆ ในปีนี้ เซ็นทาราคาดว่าจะช่วยส่งผลให้ราคาห้องพักเฉลี่ย และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ของเซ็นทาราเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) จะเติบโตประมาณ 23% หรือคิดเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้

เพิ่มเพื่อน