'ภูมิธรรม' ถกซีอีโอบริษัทยักษ์เรียกความเชื่อมั่น!

'ภูมิธรรม' เปิดทำเนียบฯ ถกซีอีโอบริษัทยักษ์ ปลุกความเชื่อมั่น ยันรัฐบาลพร้อมปรับกลไก-พัฒนาบุคลากร สู้ภาษีทรัมป์

06 ส.ค.2568 - ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการหารือระดับสูงนักลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทย ในงาน “Prime Minister Meets Investors: Confidence in Thailand’s Future - Prime Minister's Dialogue with Global Investors” โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายสุชาติ ชมกลิ่นรมช.พาณิชย์ นายนฤตม์ เทอดเสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ผู้บริหารบริษัทชั้นนำ กว่า 30 บริษัท จาก 4 อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์,ยานยนต์ไฟฟ้า,ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio - Circular - Green Economy) ร่วมหารือ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกคน ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูง จากกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก ที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทย การรับมือกับความไม่แน่นอนจากอัตราภาษีสหรัฐฯที่เป็นปัญหาใหญ่ของโลก จากการที่สหรัฐฯประกาศอัตราภาษีใหม่และประเทศไทย ถูกเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้า 19% ซึ่งรัฐบาลไทยเข้าใจถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และกติกาการค้าโลก เราจึงมุ่งมั่นที่จะอาศัยโอกาสนี้ในการปรับปรุงกลไกต่างๆเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศไทยสอดคล้องกับกติกาโลก และลดความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลกระทบกับภาคเศรษฐกิจ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีความจริงใจและความมุ่งมั่นที่จะรักษาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการธุรกิจของท่านให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านระเบียบที่เอื้ออำนวยในการประกอบธุรกิจ การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การเตรียมความพร้อมด้านพลังงานสะอาด และการเดินหน้าเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก การสร้างความสามารถในการเข้าถึงตลาดโลก

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีข้อตกลงทางการค้า 17 ฉบับ กับ 24 ประเทศ และเร่งเจรจาความ ทางการค้าเพิ่มเติมกับหลายประเทศ รวมทั้งกลุ่มอียูเกาหลีใต้ และแคนาดา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบของผู้ประกอบการและการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปยังผู้ประกอบกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และการพัฒนากลไก พลังงานสะอาด เพื่อรองรับธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทางESG ที่รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างกลไกเพื่อรองรับการดำเนินงานธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริการกลไกUtility Green Tariff แบบที่1 หรือ UGT1 ให้บริการพลังงานสะอาดพร้อมเอกสารรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมีบริษัทให้ความสนใจกว่า 40 ราย และปีนี้เราตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการ Utility Green Tariff แบบที่2 UGT 2 ที่เป็นพลังงานสะอาด สามารถระบุแหล่งที่มาและแหล่งพลังงานใหม่

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังมีกลไก Direct Power Purchase Agreement หรือ Direct PPA ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถทำสัญญาซื้อไฟจากผู้ผลิตได้โดยตรง โดยผู้ผลิตสามารถส่งพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ ผ่านสายส่งของรัฐโดยจะเริ่มให้บริการพลังงานสะอาด 2,000 เมกะวัตต์กับกลุ่มธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้พลังงานสูง และมี Commitment ในระยะยาว ทั้งนี้หากการให้บริการล็อตแรกเป็นไปด้วยดี รัฐบาลพร้อมที่จะพิจารณาขยายกลไกให้ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นต่อไป

ด้าน เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า การหารือระหว่างผู้นำรัฐบาลกับ 31 บริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งในด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมถึงแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมอาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการขยายการลงทุนขนาดใหญ่ ที่คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5.5 แสนล้านบาท และมีการจ้างงานรวมกว่า 53,000 ตำแหน่ง วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดงานนี้คือการที่ทีมไทยแลนด์ได้ประสบความสำเร็จในขั้นแรกที่ได้เจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจึงจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และเชิญชวนให้นักลงทุนกลุ่มเป้าหมายนี้ขยายการลงทุนต่อเนื่องประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนของบริษัทเหล่านี้ไม่เพียงมาตั้งโรงงานการผลิต แต่รัฐบาลได้เชิญชวนให้มาตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา มาช่วยพัฒนาบุคลากร รวมทั้งใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานประจำภูมิภาคหรือ Regional Headquarter อีกด้วย

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุชาติ' ยันวางตัวผู้สมัครเมืองชลฯ ครบ 10 เขตไร้ปัญหาทับซ้อน!

'สุชาติ' เผยวางตัวผู้สมัครชลบุรีครบทั้ง 10 เขต ไร้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน บอกผู้แทนต้องพึ่งพาได้ ไม่หวั่นกระแส จับต้องไม่ได้ แนะชาวบ้านเลือกผู้แทนมาใช้งานไม่ใช่มาใช้เรา

‘ศุภจี’ ยํ้า ดีลเจรจาภาษีทรัมป์ ยังไม่เปลี่ยนแปลง  สหรัฐฯยังไม่ปรับเงื่อนไข

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีการค้าสหรัฐฯ ว่า ยัง

ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42

SCB EIC ชี้ปี69อุตฯอาหารทะเลไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งภาษีทรัมป์-แข่งขันรุนแรง

SCB EIC มองอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยในปี 2569 มีแนวโน้มเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านลบสูงขึ้น ทั้งจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ภาษีทรัมป์ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น