
“เอกนัฏ” ลงนามประกาศห้ามตั้ง-ขยายโรงงานที่ใช้สารปรอทและห้ามใช้สารปรอทในกระบวนการผลิต มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.
10 ส.ค. 2568 – นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานที่ใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตและห้ามใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิต พ.ศ. 2568 ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศฯ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 มีเป้าหมายเพื่อควบคุมและเลิกการใช้และการปลดปล่อยปรอทจากแหล่งกำเนิดตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะฯ ที่มุ่งเน้นการควบคุม ลด และเลิก สำหรับการผลิต การนำเข้าและส่งออก การใช้ การปลดปล่อย การปล่อยปรอทและสารปรอท จากแหล่งกำเนิดที่เป็นประเด็นปัญหาสำคัญ รวมถึงแหล่งอุปทานปรอทและการค้าปรอท ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมปรอท กระบวนการผลิตที่มีการใช้ปรอท การทำเหมืองแร่ทองคำพื้นบ้านขนาดเล็ก การจัดการของเสีย และพื้นที่ปนเปื้อนปรอท ซึ่งจะเห็นได้ว่าครอบคลุมในทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากการปลดปล่อยสู่อากาศและปล่อยสู่ดินหรือน้ำของปรอทและสารประกอบปรอทจากกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านั้น โดยประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิก เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 และอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้กับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2560 เป็นต้นมา
“กระทรวงอุตสาหกรรมพยายามในทุกช่องทางเพื่อปกป้องประชาชนจากการประกอบการที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชน การลงนามฯในครั้งนี้ นับเป็นการป้องกันจากอันตรายที่เกิดจากสารปรอทในภาคอุตสาหกรรมได้ชัดเจน เช่นเดียวกับที่ผมได้ลงนามเรื่องห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตฯ เป็นระยะเวลา 5 ปี มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2573 ตามมติ ครม. ไปก่อนหน้านี้ เพื่อปกป้องประชาชนจากผู้ประกอบการที่ไม่ประสงค์ดีเช่นกัน” นายเอกนัฏกล่าว
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประกาศกระทรวงฉบับนี้ มีขอบเขตในการควบคุมโรงงานใน 5 กระบวนการผลิต ได้แก่ การผลิตคลอร์-แอลคาไล การผลิตอะซีตัลดีไฮด์ที่ใช้ปรอทและสารประกอบปรอทเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา การผลิตสารไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ การผลิตโซเดียมหรือโพแทสเซียม เมทิลเลต หรือเอทิลเลต และการผลิตโพลียูรีเทน ที่ใช้ปรอทเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยห้ามตั้งหรือขยายโรงงานที่ใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิต และห้ามใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตในโรงงาน ซึ่งประกาศดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการควบคุมการปลอดปล่อยปรอทจากกระบวนการผลิต ช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดความปอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ต่อบทบาทของประเทศไทยในการปฏิบัติตามพันธกรณีประหว่างประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในหลากหลายด้าน ทั้งด้านการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในเวทีสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ การผลักดันการพัฒนากฎหมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดช่องทางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าโดยใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการเจรจาทางการค้าได้อย่างเป็นดี ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความลงตัวกับกติกาสากล ตลอดจนเกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยในที่สุด
นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า กรอ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ และ พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งหนึ่งในประเด็นการดำเนินงานให้เป็นไปตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามตะฯ คือ การควบคุมกระบวนการผลิตที่มีการใช้ปรอทหรือสารประกอบปรอท ตามพันธกรณีข้อ 5 ของอนุสัญญามินามาตะฯ ซึ่งจากการทำงานร่วมกันระหว่าง กรอ. และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยมีความพร้อมในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของอนุสัญญามินามาตะฯ ในการเลิกใช้ปรอทและสารประกอบปรอทในกระบวนการผลิตดังกล่าว กรอ. ออกประกาศกระทรวงดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำปรอทและสารประกอบปรอทมาใช้ในโรงงานหรือสถานประกอบการใหม่ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
“ประกาศกระทรวงฉบับนี้ จะส่งผลทางบวกต่อภาคอุตสาหกรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นการยืนยันว่ากระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ไม่มีการใช้ปรอทและสารประกอบปรอท ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย การป้องกันมิให้มีการนำปรอทและสารประกอบปรอทมาใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงานใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยให้สถานประกอบการหรือโรงงานดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความลงตัวกับกติกาสากล และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน” นายพรยศ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รทสช.จัดประชุมวันนี้ดัน ‘ชัช เตาปูน’ นั่งเลขาธิการพรรคคนใหม่
รวมไทยสร้างชาติ จัดประชุมวันนี้ ดัน”ชัช เตาปูน”นั่งเลขาธิการพรรคคนใหม่แทน”ขิง เอกนัฎ” หลังเลือดไหลออกเข้าภท.เพียบ
'เอกนัฏ-จุติ' ขน สส.รทสช. แสดงเจตจำนงร่วมงานภูมิใจไทย เลือกตั้งครั้งหน้า
"อนุทิน" หน้าบาน ต้อนรับ "เอกนัฏ-จุติ" ขน สส.รทสช. แสดงเจตจำนงค์ ร่วมงานค่ายน้ำเงิน เลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมยอมรับคำวิจารณ์
โถ! 'เอกนัฏ' รับคุย 'อนุทิน' ตลอด แจงทิ้ง เลขาฯรทสช. เห็นต่าง 'พีระพันธุ์' ปมคลิปเสียง-โหวตนายกฯ
"เอกนัฏ" เปิดใจ ไม่ขัดแย้ง "พีระพันธุ์" แต่เห็นต่างปมคลิปเสียงอิ๊งค์-โหวตนายกฯ เผย คุย "อนุทิน" ตลอด พร้อมฝากฝังก๊วน สส.ชุมพร หลังเปิดอก อยากไปร่วมงาน ภท. บอก หากทำงานการเมืองต่อ "ภูมิใจไทย" เป็นทางเลือกหนึ่ง เหตุจุดยืนตรงกัน
‘เอกนัฏ’ลุยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
“รมว.เอกนัฏ” ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ชื่นชม “ดีพร้อม” โชว์ผลสำเร็จการยกระดับฐานราก สร้างมูลค่าวัตถุดิบพื้นถิ่น ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
ชาวไร่ตัดอ้อยสด เฮ! “เอกนัฏ” Kick off โอนเงินช่วยเหลือตัดอ้อยสด 100% ตอกย้ำความร่วมมือชาวไร่และโรงงานน้ำตาล ลดเผาอ้อยต่ำสุดในประวัติศาสตร์!
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติเห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนิน
'เอกนัฏ' คุยพร้อมเป็นแนวหลังปกป้องเศรษฐกิจประเทศ เปิด 5 ข้อ แผนรับมือภาษีทรัมป์
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นพร้อมกัน


