
กระทรวงพลังงาน เปิดโมเดลความสำเร็จ วิสาหกิจชุมชนจังหวัดลำปาง นำเทคโนโลยีด้านพลังงานมาใช้ในกระบวนการผลิต ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้พลังงาน และลดโลกร้อน สร้างรายได้รวมกว่า 4 ล้านบาทต่อปี
2 ก.ย. 2568 – นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงานและโฆษกกระทรวงพลังงาน และนางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อเยี่ยมชมความสำเร็จของ “ผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงาน” ของวิสาหกิจชุมชนต้นแบบ 2 แห่ง ได้แก่ กลุ่มเพาะแปรรูปเห็ดบ้านสวนแม่ทะ อำเภอแม่ทะ ผู้ผลิตข้าวเกรียบเห็ด ตราครูกานต์ และกลุ่มข้าวแต๋นทวีพรรณ อำเภอเกาะคา ผู้ผลิตข้าวแต๋นทวีพรรณ ที่นำเทคโนโลยีด้านพลังงานไปปรับใช้ในกระบวนการผลิต จนสามารถลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ และเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมมอบใบรับรอง “ผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงาน” เพื่อเป็นเครื่องหมายยืนยันถึงความสำเร็จในการเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ใส่ใจต่อการใช้พลังงาน สิ่งแวดล้อม และการลดโลกร้อน
นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของกระทรวงพลังงาน คือ การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับ โดยผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงานเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยนำเทคโนโลยีพลังงานของกระทรวงพลังงานเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการ ความสำเร็จของวิสาหกิจชุมชนทั้ง 2 แห่งนี้ ยืนยันว่า เมื่อลงทุนด้านพลังงานอย่างถูกทาง จะเปลี่ยนวิถีการผลิตแบบดั้งเดิมให้ทันสมัย สะอาด ถูกหลักอนามัย ลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถขยายผลไปยังชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศได้
โดยที่ผ่านมาทั้ง 2 กิจการที่มีการลงทุนด้านพลังงานแล้วนั้นสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยข้าวเกรียบเห็ดมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 1.3 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อกิโลกรัม หากคิดเป็น 1 กระป๋องขนาด 45 กรัม จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพียง 0.0586 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และข้าวแต๋นทวีพรรณมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 1.06 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อกิโลกรัม หากคิดเป็น 1 ถุงขนาด 90 กรัม จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพียง 0.0954 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นายวีรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานจะเร่งเดินหน้าส่งเสริม “ผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงาน” ทั่วประเทศ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้นในฐานะสินค้ารักษ์โลก โดยในปี 2568 นี้ เตรียมเปิดตัวความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมัน เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในสถานีบริการน้ำมันและร้านค้าในเครือทั่วประเทศ เปิดโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง

