
10 ก.ย. 2568- นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง เงื่อนไข“คนละครึ่ง”ถูกหลักการวินัยการเงินการคลัง หรือไม่? มีเนื้อหาดังนี้
ตามที่เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการนำโครงการ "คนละครึ่ง" กลับมาอีกครั้งว่า
มีข้อเสนอจากนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้มีการแบ่งสัดส่วนการร่วมจ่ายระหว่างรัฐกับประชาชนเป็น 60:40 สำหรับผู้ที่เสียภาษีเงินได้ เพื่อกระตุ้นให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น
ส่วนผู้ที่อยู่นอกระบบภาษียังคงได้รับสิทธิแบบเดิมคือ 50:50 นั้น
ผมขอชมเชยแนวคิดที่เสนอโดยนายเอกนิติ เพราะจะช่วยขยายฐานภาษี แต่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแง่มุมวินัยการเงินการคลัง ดังนี้
1 โครงการ "คนละครึ่ง" ของไทยเป็นรัฐสวัสดิการ
ถ้าเปรียบเทียบกับโครงการทำนองนี้ ในหลายประเทศจะมุ่งผลด้านกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก
จึงจะตั้งเงื่อนไขให้ประชาชนที่พอมีกำลังจับจ่ายใช้สอย ต้องควักกระเป๋าออกมาก่อนถึงระดับ floor เช่น ต้องใช้จ่ายจนเกิน 200 บาท/ครั้งเสียก่อน จึงจะได้รับสิทธิ "คนละครึ่ง"
กล่าวคือ เน้นให้ประชาชนต้องใช้จ่ายนำ และบางประเทศ ยังตั้งเงื่อนไขให้สิทธิมีอายุเพียงเวลาสั้น เช่น ประชาชนที่ได้รับสิทธิ ถ้าหากไม่ใช้จ่ายภายในวันนั้น สิทธินี้จะหมดอายุหมดสภาพ
แต่กรณีโครงการ "คนละครึ่ง" ของไทย ไม่ได้ตั้งเงื่อนไขให้ต้องใช้จ่ายเกิน floor ขั้นต่ำเสียก่อน และกรณีที่ไม่ใช้จ่าย ผู้รับสิทธิก็จะสามารถยกยอดไปสะสมใช้ในอนาคตได้อีก
ดังนั้น โครงการ "คนละครึ่ง" ของไทย จึงมีสภาพและเนื้อหาทางเศรษฐกิจ เป็นรัฐสวัสดิการ มากกว่าเป็นเครื่องมือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
2 การเป็นรัฐสวัสดิการต้องจำกัดวง
หลักการของรัฐสวัสดิการ จะต้องเน้นช่วยเหลือแต่กลุ่มเปราะบาง มิใช่ช่วยแบบเปรอะไปหมด อันจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ดังนั้น ในเมื่อโครงการ "คนละครึ่ง" ของไทยเป็นรัฐสวัสดิการอย่างหนึ่ง รัฐบาลจึงควรจำกัดวง มิให้ผู้ที่อยู่ในฐานะช่วยตนเองได้ แต่ยังจะสามารถเข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์จากการนี้
โดยเปิดให้เฉพาะแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มิใช่แก่บุคคลทั่วไปทั้งที่มีฐานะช่วยตัวเองได้
3 ไม่มีผลเป็นการสนับสนุนการลงทุน
โครงการ "คนละครึ่ง" มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ลงไปช่วยพ่อค้ารายย่อย ทำได้เร็วเพราะมีระบบทำงานพร้อมอยู่แล้ว
แต่ในข้อเท็จจริง รัฐบาลย่อมมีหน้าที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัดหวงแหน มิใช่แบบสุรุ่ยสุร่าย และการทำโครงการนี้ย่อมมีผลทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณถ่างออกไปอีกเรื่อยๆ
ดังนั้น เพื่อยึดหลักการวินัยการเงินฯ รัฐบาลควรจะกำหนดวงเงินโดยรวมเพิ่อใช้สำหรับโครงการนี้เพียงพอเหมาะพอสม
เพราะมีลักษณะเป็นการกู้หนี้สาธารณะ เพื่อมากินมาใช้ประจำวัน กล่าวคือ เป็น consumption ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการวินัยการเงินฯ
การกู้หนี้สาธารณะที่ปลอดภัย ควรให้เป็นสร้าง investment
วันที่ 9 กันยายน 2568
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘คนละครึ่ง’พุ่ง! ทะลุ6.4พันล้าน เชือด55ร้านค้า
ถึงคิวผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันนี้ 13.4 ล้านคน รับ 1,700 บาท โอนเข้าบัญชี 2 งวด 1 พ.ย.และ 1 ธ.ค. ส่วน “คนละครึ่งพลัส” คึกคัก! ใช้จ่ายรวม 5.4 พันล้านแล้ว รัฐบาลเชิญชวนร้านค้าทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการได้
ถึงคิวผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ! วันนี้ 13.4 ล้านคนเตรียมรับเงิน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่เงินช่วยเหลือสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะถูกโอนเข้าบัญชีทุกวันที่ 1 ของเดือน
‘ธีระชัย’ ฉงน ‘สีหศักดิ์’ ทิ้งวิญญาณนักการทูตเอาไทยไปผูกขากับสหรัฐปมแร่หายาก
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ
'ธีระชัย' มองประชุมเจบีซี ไทยเสียท่าเรียบร้อยโรงเรียนเขมรไปแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรียบร้อยโรงเรียนเขมร ประชุม JBC ชื่นมื่น แต่ถ้าเปิดฝากระโปรงรถ ผมเห็นว่า ฝ่ายไทยเสียท่าเรียบร้อยโรงเรียนเขมรไปแล้ว
‘เอกนิติ’ปักธงเข็นจีดีพีQ4โตเกิน1% นัด20-26ต.ค.ลงทะเบียนคนละครึ่ง
‘เอกนิติ’ เดินเครื่องเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปักธงไตรมาส 4 ดันจีดีพีโตได้เกิน 1% ฟุ้งคนละครึ่ง พลัส-เติมเงินบัตรคนจน หนุนเพิ่ม 0.2-0.7% พร้อมเข็นส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบ กางไทม์ไลน์ลงทะเบียนคนละครึ่ง 20-26 ต.ค. นี้ ร้านค้าดีเดย์ 15 ต.ค. การันตีเริ่มใช้จ่าย 29 ต.ค. จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. นี้ เตรียมผุดออมเงินผ่านการซื้อสลากฯ
ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ สบายใจได้ รบ.ยันได้สิทธิ์เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเงินมากขึ้น
'โฆษก รบ.' แจงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสิทธิ์เหมือนเดิมทุกอย่าง


