DRT เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 รายได้รวม 1,032.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 41.72 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบเศรษฐกิจและอสังหาฯ ชะลอตัว ช่วงโลว์ซีซันของตลาดวัสดุก่อสร้าง และการปิดด่านชายแดน คาดไตรมาส 4/2568 ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด ลั่นศักยภาพการผลิตและสินค้าพร้อมรับดีมานด์ตลาด
12พ.ย. 2568 - นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา บริการติดตั้งโครงหลังคาสำเร็จรูปและกระเบื้องหลังคา พื้น บันได และผนังพร้อมบริการติดตั้ง 'SPC Solutions' แบบครบวงจร ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 (ก.ค.-ก.ย.) ว่า บริษัทฯ เร่งทำการตลาดเชิงรุกภายในประเทศทุกช่องทางจัดจำหน่ายและมุ่งขยายตลาดส่งออกในอาเซียน เพื่อผลักดันยอดขายอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังชะลอตัว ตลาดวัสดุก่อสร้างเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน และการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,032.22 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 41.72 ล้านบาท ชะลอตัว 7.55% และ 51.78% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.37%
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 3,617.42 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 244.39 ล้านบาท ชะลอตัว 8.97% และ 44.51% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าโครงการภาครัฐ เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล และขยายตลาดในเมืองรอง พร้อมทั้งนำเสนอสินค้าพร้อมบริการในรูปแบบโซลูชันเพื่อรุกขยายตลาดอย่างเต็มที่ ส่งผลให้มีอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 74%
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 4/2568 คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดและเริ่มทยอยฟื้นตัว โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเร่งขยายตลาดและดูแลลูกค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งรุกขยายตลาดงานโครงการภาครัฐและส่งออกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมด้านการผลิตสินค้าทั้งกลุ่มหลังคา กลุ่มไม้สังเคราะห์ และกลุ่มอิฐมวลเบา โดยล่าสุดได้เดินเครื่องจักรโรงงาน AAC-2 จังหวัดสระบุรี ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตสินค้าสเป็กพิเศษและรุ่นมาตรฐาน พร้อมรองรับความต้องการใช้สินค้าจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง นอกจากนี้ คาดว่านโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และการออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรม โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด สามารถหักรายจ่ายจากการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยาย หรือทำให้ดีขึ้น (ไม่รวมถึงการซ่อมแซมเพื่อคงสภาพเดิม) ได้ 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึง 31 มีนาคม 2569 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง โดยรัฐบาลคาดว่าจะมีผู้ประกอบการที่ปรับปรุงโรงแรมเพื่อรับสิทธิมาตรการภาษีในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1,200 ราย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
PREB โชว์งบ Q3/68 กำไรพุ่งกระฉูด 76%
PREB โชว์ผลงานไตรมาส 3/68 กวาดรายได้รวม 1,402.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33.87 ล้านบาท พุ่งกระฉูด 76.82% จากงวดเดียวกันปีก่อน รับแรงหนุนงานรับเหมาก่อสร้าง ตุน Backlog กว่า 9.8 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยประมูลงานด้านรับเหมาก่อสร้าง รักษาผลงานให้เติบโตต่อเนื่อง
‘เพอร์เฟค‘มั่นใจปี69ยอดขายกลับฐานเดิม1.1หมื่นล้าน
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดแผนธุรกิจปี 2569 ตั้งเป้ายอดขายที่ 11,000 ล้านบาท ฟื้นตัวกลับสู่ฐานเดิม พร้อมชู 5 กลยุทธ์หลัก ทั้งเปิดตัวแบบบ้านใหม่ในทุกเซกเมนต์ ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างเข้มข้น ยกระดับบริการสโมสร 25 แห่งให้เป็น Health & Lifestyle Club เพิ่มรายได้จากบริษัทร่วมทุน พร้อมขยายธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ดัน Recurring Income แตะ 30% ใน 3 ปี


