
สยามพารากอน โกลบอลเดสติเนชั่นใจกลางกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ กว่า 20 ปีที่ครองตำแหน่งจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก หรือ Global Landmark Destination ที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย และครองความเป็น Luxury Destination ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จก้าวสู่ทศวรรษใหม่ด้วยปรากฏการณ์เหนือระดับ แปลกใหม่น่าตื่นตาตื่นใจ ดึงดูดลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติอย่างใม่หยุดยั้ง
19 พ.ย. 2568 – นางธณพร ตันติยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน กล่าวว่า นับจากวันแรกที่ให้บริการเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2548 สยามพารากอน คือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ มีบทบาทในการขับเคลื่อนหลากหลายทุกอุตสาหกรรมหลัก โดยให้การสนับสนุนเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในทุกด้าน ด้วยวิสัยทัศน์และความร่วมมือของสองผู้นำแห่งวงการรีเทลไทย ได้แก่ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ความร่วมมืออันแข็งแกร่งของทั้งสององค์กรเป็นรากฐานสำคัญที่ผลักดันให้สยามพารากอนก้าวสู่หมุดหมายแห่งความสำเร็ขของวงการค้าปลีกทั้งในประเทศไทยและเวทีนานาชาติ จนกลายเป็น Global Landmark Destination ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
“ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่มีผู้คนจากทั่วโลก มาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง และวันนี้กำลังก้าวสู่ทศวรรษใหม่ด้วยแบรนด์ไอเดนทิตี Be Extraordinary Live Extraordinary Dream Extraordinary โดย Be Extraordinary คือเป็นตัวเองให้พิเศษ Live Extraordinary ใช้ชีวิตเหนือความคาดหมาย และ Dream Extraordinary ฝันให้ไกลกว่าที่เคย ซึ่งตอกย้ำบทบาทของสยามพารากอนในการเป็น “Pioneering the Extraordinary” ผู้บุกเบิกประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง”
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของสยามพารากอน สะท้อนพลังของการสร้าง ‘ประสบการณ์’ ที่เกิดจากการประสานพลังระหว่าง สยามพิวรรธน์และเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมรีเทลไทย ให้ก้าวสู่ระดับโลก เรามุ่งออกแบบ คุณค่าทางประสบการณ์ (Experiential Value Design) และวิถีชีวิตที่ลูกค้าสัมผัสได้จริงทุกครั้งที่มาเยือน เพื่อให้ประสบการณ์ของสยามพารากอน มีความหมายลึกซึ่งขึ้น และสะท้อนตัวตนของผู้มาเยือนอย่างแท้จริง โดย Beauty Hall, Gourmet Market และ Power Mall คือ Strategic Retail Engines ที่ช่วยขับเคลื่อนให้สยามพารากอน มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนและแข็งแรงในเชิงประสบการณ์ ที่ช่วยหนุนยกระดับภาพความเป็น World-Class Retail Experience Standard ที่ทำให้สยามพารากอนโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในฐานะ Global Lifestyle Destination Ecosystem ที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิต ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ เราเดินหน้าขับเคลื่อน Future Retail Transformation ที่ผสานนวัตกรรม การคัดสรรระดับโลก และบริการที่เข้าใจความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและคุณค่าที่ลึกขึ้นให้กับลูกค้า เพื่อให้สยามพารากอนจะยังคงเป็น Global Landmark Destination ที่ทรงอิทธิพล และเป็นต้นแบบ Retail Experience Innovation แห่งอนาคตสำหรับผู้คนจากทั่วโลก

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สยามพารากอนครองความเป็นที่ 1 ในใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็น “The Pride of Bangkok” หรือความภาคภูมิใจของกรุงเทพมหานคร ที่เปิดต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 100 ล้านคนต่อปี เป็นผู้บุกเบิกประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และสร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ทั้งการนำเสนอร้านค้าแบรนด์ดังเป็นครั้งแรกในไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และมหกรรมอีเว้นท์ยิ่งใหญ่ระดับโลก การก้าวสู่ปีที่ 21 สยามพารากอน จึงเดินหน้าขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ “Paragon of Extraordinary Worlds” ที่จะมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าครอบคลุมทุกมิติผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่
1.PARAGON OF IMMERSIVE LUXURY
สยามพารากอน ได้มอบสุนทรียะแห่งความหรูหราที่เข้าถึงได้ เปรียบเสมือนดินแดนที่รวบรวมเมซงระดับโลก งานสร้างสรรค์เหนือกาลเวลา และ สุนทรียะแห่งนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตของยุคสมัย ให้คุณสัมผัสจิตวิญญาณแห่งงานประณีตศิลป์อย่างใกล้ชิด ทั้งยังได้รับการยอมรับในตลาดลักซ์ชัวรีโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 70% ในตลาด Luxury Retail ในประเทศไทย และมีรายได้ต่อตารางเมตรสูงสุดในประเทศไทย ถือเป็นแพลตฟอร์มสร้างยอดขายสูงสุดในภูมิภาคและบางแบรนด์ติดอันดับสูงสุดของโลก ปัจจุบัน สยามพารากอน มีลักซ์ชัวรี่แบรนด์ดังระดับโลกจำนวนกว่า 70 แบรนด์ บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร พร้อมขยายพื้นที่สำหรับลักซ์ชัวรี่แบรนด์ ทั้งโซน Luxe Hall และการเปิดแฟล็กชิฟสโตร์แบบดูเพล็กซ์และทริปเพล็กซ์จำนวนมากที่สุดในประเทศไทย อาทิ
Bulgari ดูเพล็กซ์แห่งแรกในประเทศไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากกรุงโรม
Cartier ดูเพล็กซ์แห่งแรกในประเทศไทย ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Heavenly Cartier’ ผสานดีไซน์ร่วมสมัยกับมรดกความเป็นไทย
Chanel ดูเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมเปิดให้บริการในปี 2570
Dior ทริปเพล็กซ์ ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการในปี 2569
Hermès มอบความเหนือระดับด้วยพื้นที่สองชั้น เตรียมเปิดในปี 2569
Louis Vuitton ดูเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมเปิดให้บริการต้นเดือนธ.ค.2568
แล่าสุ่ดยังได้เปิดพื้นที่ต้อนรับแบรนด์ดังระดับเวิลด์คลาสที่มาเปิดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อย่าง
ACNE STUDIOS แบรนด์ยอดนิยมของมิลเลนเนียล ชั้น 1 ซึ่งกระแสตอบรับดี และทำยอดขายสูงที่สุดในโลกในช่วงเปิดตัว
2.PARAGON OF SENSORY INDULGENCES ปรากฏการณ์แห่งรสสัมผัสอันประณีต รังสรรค์ทุกศิลปะแห่งรสชาติ เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้ดื่มด่ำและรื่นรมย์ยิ่งขึ้น ผ่านรสชาติ กลิ่น เสียง และบรรยากาศที่ผสานกันอย่างละเมียดละไม โดยมีแม็กเน็ตสำคัญที่จะเสริมให้สยามพารากอน ยังคงครองความเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าทั้งชาวไทยและจากทั่วโลก นั่นคือ Siam Paragon Dining Phenomenon รวบรวม 700 ร้านอาหาร ร้านขนมและเครื่องดื่มชื่อดัง รวม kiosk ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ Chef Table ร้าน Michelin Stars และร้านที่แจ้งเกิดครั้งแรกในประเทศไทยโดยมีไฮไลท์ได้แก่ D&G Caffe คาเฟ่
สุดลักซ์ชัวรี่แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ถ่ายทอดความงดงามของดีไซน์อิตาเลียนและศิลปะการปรุงอาหารสไตล์ซิซิเลียนสู่ใจกลางเมือง ชั้น 1 , Bacha Coffee ร้านกาแฟเฮอริเทจระดับตำนานจากโมร็อกโกที่เตรียมเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย มอบเสน่ห์แห่งกาแฟชั้นสูงที่หอมกรุ่นความหรูหราเหนือกาลเวลาและ EATELIER Dining Entertainment แห่งแรกของประเทศไทย ที่ผสานศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และวัฒนธรรมการกินเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ นับเป็นการปฏิวัติประสบการณ์การกินดื่มให้กลายเป็น “Eat–Drink–Chill Hub” ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยอยู่บนพื้นที่ ชั้น 4 สยามพารากอน
3.PARAGON OF VISIONARY FUTURE สยามพารากอน สร้างสรรค์ Co-create ปรากฏการณ์ใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอพื้นที่ของนักสร้างสรรค์ ถ่ายทอดแนวคิดใหม่ นวัตกรรมแถวหน้า และประสบการณ์ที่ยกระดับวิถีชีวิต พร้อมขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้านความมั่งคั่ง สุขภาวะ และความยั่งยืน
NEXTOPIA เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต บนพื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม. ด้วยเงินลงทุน 850 ล้านบาท จากการผนึกกำลัง Co-create ของ 50 องค์กรนวัตกรรม พันธมิตร คู่ค้า และ 30 คอมมูนิตี้ของ Friends of NEXTOPIA ที่จะเปิดรับพลังจากทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ดีกว่า สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกก้าวของชีวิตเต็มไปด้วยคุณค่าที่สามารถส่งมอบให้ผู้อื่น ความสนุกและความบันเทิง ควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและยั่งยืน
SCBX NEXT TECH เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต เปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพให้ผู้คนทุกวัยที่สนใจโลกดิจิทัล ได้แลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาตนเองภายใต้แนวคิด “Smarter, Better, Richer”

4.PARAGON OF EXTRAORDINARY EXPERIENCE เวทีแห่งประสบการณ์ที่โลกจับตา ศูนย์รวมศิลปะร่วมสมัย แสงสี และวัฒนธรรมจากทั่วโลก ยกระดับทุกช่วงเวลาให้กลายเป็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ ที่สะกดทุกความรู้สึกด้วยพลังแห่งความตระการตา ครอบคลุมทุกพื้นที่ ได้แก่ SEALIFE Bangkok หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ 10,500 ตร.ม. นับเป็น Attraction อันทรงพลังที่ดึงดูดผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่าปีละ 2.5 ล้านคน , MELAND World-Leading Indoor Theme Park สวนสนุกในร่มสุดล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเป็นแฟล็กชิปโกลบอลแลนด์มาร์คนอกประเทศจีนแห่งแรกในประเทศไทย ที่ชั้น 5 สยามพารากอน ดินแดนมหัศจรรย์บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตร.ม. ที่จะพาทั้งครอบครัวเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการและความสนุกแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งจะเป็น Edutainment Destination อันดับ 1 ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ สยามพารากอนยังยกระดับและ Refresh การให้บริการเหนือระดับแบบครบวงจร (Comprehensive Service Transformation) ผ่านการใช้ Data และ AI เพื่อมอบบริการแบบ Hyper-Personalized และ World-Class Service for All พร้อมเปิดตัวโลโก้ และยูนิฟอร์มยูนิฟอร์มใหม่ ของศูนย์ฯ และห้างฯ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็น Global Landmark Destination อย่างเต็มภาคภูมิ
สำหรับในปีนี้สยามพารากอนฉลองครบรอบ 20 ปีสุดยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด “A Journey of Extraordinary Dreams” ผนึกกำลังทั้ง ศูนย์ฯ และห้างฯ มอบประสบการณ์เหนือระดับกับกิจกรรมสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย. 2568 เนรมิตทุกตารางเมตร ตั้งแต่ชั้น B ถึงชั้น 5 ทุกชั้นทุกแผนกให้เป็นอาณาจักรแห่งความสุข หรรษา และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเป้าหมาย
อย่างไรก็ดี ก้าวแห่งความสำเร็จตลอดระยะเวลา 20 ปีของสยามพารากอน นับเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มต้นแบบระดับโลก หรือ Global Prototype ที่สามารถสร้างประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ ครองความเป็นสุดยอดแห่ง Luxury Destination และ Top of Mind ของลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและการพัฒนาในทุกมิติ สร้างจุดแข็งอันโดดเด่นและความเชื่อมั่น ดึงดูดให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นโกลบอลเดสติชั่นสำคัญทั้งในด้านการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการลงทุนจากทั่วโลก เหนือสิ่งอื่นใด คือการที่สยามพารากอน ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคน อย่างต่อเนื่องเสมอมา


