ตลาดรับสร้างบ้าน 3 ไตรมาส /2568 หดตัว 14% จาก 163,882 ล้านบาท เหลือ 141,077 ล้านบาท เหตุภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า เสถียรภาพทางการเมืองไม่นิ่ง กำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่
1 ธ.ค. 2568- นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน หรือ HBA เปิดเผยว่า มูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REICพบว่า ตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ย.) ของปี 2568 มีมูลค่าประมาณ 141,077 ล้านบาท ลดลง 14% จากปี 2567 ที่ 163,882 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวช้า เสถียรภาพทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง และกำลังซื้อของครัวเรือนที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่
ทั้งนี้เปรียบเทียบมูลค่าบ้านสร้างเองทั่วประเทศ ทั้ง 3 ไตรมาส คือ ไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 3 ปี 2567 และไตรมาส 1 ถึงไตรมาส ปี 2568 แยกพื้นที่ กรุงเทพฯ – ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยส่วนของกรุงเทพฯ – ปริมณฑล มีมูลค่า 40,971 ล้านบาท ใน 3 ไตรมาสของปี 2567 เทียบกับ 3 ไตรมาสของปี 2568 มีมูลค่าอยู่ที่ 26,805 (-35%)
ด้านตลาดต่างจังหวัด ใน 3 ไตรมาสของปี 2567 มีมูลค่า 122.912 ล้านบาทจากนั้นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 114,272 ล้านบาท (-7%) ในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2568 โดยรวมตลาดของ 3 ไตรมาสของปี 2567 มีมูลค่า 163,882 ล้านบาท ก่อนจะปรับตัวลดลงเป็น 141,077 ล้านบาท ใน 3 ไตรมาสของปี 2568 (-14%)
สำหรับภาพรวมตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน ไตรมาส 2 และ 3 ปี 2568 เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวที่เป็นไปในทิศทางบวก เมื่อเทียบผลงานแต่ละไตรมาสของปี 2568 โดยไตรมาส 2 มีมูลค่าการก่อสร้างบ้าน 45,167 ล้านบาท จากนั้นปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 ด้วยมูลค่า 48,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่อง 7% สะท้อนถึงดีมานด์สร้างบ้านบนที่ดินตนเองเริ่ม “ฟื้นตัว” แล้ว อย่างไรก็ตามการเติบโตดังกล่าวมาจากยอดขายในต่างจังหวัดมากถึง 81% ของภาพรวมตลาด ปี 2568 โดยมีมูลค่า 114,272 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง 7% ขณะที่ผลงานยอดขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีสัดส่วนอยู่ที่ 19% คิดเป็นมูลค่า 26,805 ล้านบาท เป็นยอดที่หดตัวลง 35%
“ตัวเลขของการสร้างบ้านในตลาด มีการปรับเปลี่ยนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดในปี 2567 สัดส่วนที่ 75% ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 25% สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อหลักมาจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองรองที่ยังมีความต้องการสร้างบ้านบนที่ดินตนเองสูงมาก”นายอนันต์กรกล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อเจาะลึกเป็นรายภูมิภาค เปรียบเทียบ ไตรมาส 2 และ 3 ปี 2568 พบกทม.และปริมณฑล มียอดขาย 9,033 ล้านบาท ในไตรมาส 2 จากนั้น ไตรมาส 3 เพิ่มเป็น 9,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น7%,ภาคกลาง ยอดขาย 1,807 เพิ่มเป็น 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น33%, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยอดขาย 7,678 เพิ่มเป็น 8,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13%ภาคตะวันตก ยอดขาย 3,613 ล้านบาท เพิ่มเป็น 3,856 ล้านบาทเพิ่มขึ้น7%,ภาคตะวันออก ยอดขาย 6,775 ล้านบาท ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 5,784 ล้านบาท ลดลง5%,ภาคเหนือ ยอดขาย 8,130 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 7,712 ล้านบาท ลดลง5% และภาคภาคใต้ ยอดขาย 8,130 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น25%
นายอนันต์กร กล่าวว่า ตลาดภูมิภาคเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากการรุกหนักด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อตอกย้ำถึงบทบาทของสมาคมฯ ในการสร้างมาตรฐานการก่อสร้าง การยกระดับบริการสร้างบ้านที่ครบวงจร และความน่าเชื่อถือของการสร้างบ้านตามสัญญาและส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า โดยไม่มีปัญหาเรื่องการทิ้งงาน ทำให้กระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่กำลังวางแผนสร้างบ้านเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเร่งการตัดสินใจผู้บริโภคให้สร้างบ้านเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ EXPO 2025 : สร้าง อยู่ ดี” ซึ่งเป็นงานประจำปีของสมาคมฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคต่อบริษัทรับสร้างบ้านมาตรฐาน ที่แม้ไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนมูลค่าตลาดทั้งประเทศ แต่ช่วยยกระดับภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งจาก 1) มาตรการลดหย่อนภาษีค่าก่อสร้างบ้าน (ล้านละหมื่น) ช่วยลดภาระภาษีของผู้มีรายได้ประจำที่ต้องการสร้างบ้านบนที่ดินตนเอง 2) มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน เช่น คนละครึ่ง ที่เข้ามาช่วยเพิ่มสภาพคล่องและความเชื่อมั่น ส่งผลทางอ้อมต่อการตัดสินใจสร้างบ้าน
นายอนันต์กร กล่าวว่า ไตรมาสที่ 4 ของทุกปีถือเป็นไฮซีซั่นของการสร้างบ้าน และในปีนี้ เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคที่กำลังวางแผนสร้างบ้านน่าจะตัดสินใจเร็วขึ้น จากปัจจัยด้านวัสดุก่อสร้างที่เริ่มปรับราคาขึ้น พร้อมกับค่าแรงก่อสร้างก็มีแนวโน้มสูงขึ้นในปี 2569
“เศรษฐกิจโดยรวมเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค และหากเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ และ GDP โต ใกล้ระดับ 2.5 – 3% จะทำให้ตลาดรับสร้างบ้านมีโอกาสเติบโตในระดับเลขตัวเดียว โดยมาจากกำลังซื้อหลักในต่างจังหวัดและครอบครัวที่ต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง” นายอนันต์กร กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม
เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.
ถอดบทเรียนหาดใหญ่ สู่ป้องกันกรุงเทพ นักวิชาการแนะ ปรับยุทธศาสตร์ลงทุนระบบการบริหารจัดการน้ำ
จากน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่และภาคใต้ สะท้อน ความล้มเหลวในการบริหารจัดการภัยพิบัติขนาดใหญ่ของสังคมไทยอย่างชัดเจน ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความผิดผลาดซ้ำเดิมอีก
กรมอุตุฯเตือนไทยหนาวจัด! อีสานต่ำสุด 7 องศา ลมแรงทั้งภาค-กรุงเทพฯ ลดฮวบ 15°C
พยากรณ์อากาศ 29 พ.ย. 2568 ระบุไทยตอนบนอุณหภูมิลดฮวบ กรุงเทพฯ-ปริมณฑลต่ำสุดถึง 15°C ขณะที่ภาคอีสาน-เหนือหนาวจัด ต่ำสุด 7-8°C ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนฟ้าคะนองราว 20% ของพื้นที่
หนาวบุกไทย! เหนือ-อีสานลดฮวบ 2-4 องศา กทม.ต่ำสุดแตะ 20 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพยากรณ์อากาศ เวลา 18.00 น. ระบุช่วงเวลาที่ครอบคลุม ตั้งแต่ 18.00 น. วันนี้ ถึง 18.00 น. วันพรุ่งนี้ (20 พช
ดับบลิว เฮ้าส์ เดินเกมรุกตลาดรับสร้างบ้านหรูทำเลเขาใหญ่
ดับบลิว เฮ้าส์ เดินหน้าบุกรับสร้างหรูทำเลเขาใหญ่ ทำเลยอดฮิตแหล่งโอโซนระดับโลกใกล้เมือง ตั้งเป้าเจาะตลาดบ้านหรูหลังที่สอง ‘เศรษฐีไทย’ สิ้นปี 2568 ยอดสร้างบ้านหรูโตก้าวกระโดด ครองสัดส่วน 30–40% พอร์ตรวมบริษัท เฉลี่ยทำผลงานส่งมอบงานลูกค้ากว่า 10 หลังต่อปี มูลค่าต่อหลังประมาณ 30-70 ล้านบาท


