‘ศุลกากร’ แจงข้อมูลส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว ตรงกันทุกหน่วยงาน ยืนยันหลังตรวจสอบทุกด่านพบปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต ย้ำชัดไทยงดส่งออกน้ำมันไปกัมพูชาแล้ว 100% ตั้งแต่ ก.ค. 2568 พร้อมขอความร่วมมือคู่ค้าไทยงดส่งต่อน้ำมันไปประเทศที่สาม
16 ธ.ค. 68 - นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพลังงาน กองทัพฯ ที่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติในช่วงที่มีสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดน โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว และเวียนนาม ว่า ยืนยันว่า ข้อมูลปริมาณการส่งออกน้ำมันตรงกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกรมศุลกากร
โดยได้ตรวจสอบข้อมูลการส่งออกไปยัง สปป.ลาวในทุกด่านสำคัญ ทั้งด่านช่องเม็ก หนองคาย มุกดาหาร เชียงแสน และเชียงของ พบว่า ข้อมูลระหว่างเดือนต.ค., พ.ย. และ ธ.ค. 2568 แสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเพิ่มขึ้นในระดับ 5-10 เท่า
นอกจากนี้ หากพิจารณาในแง่มูลค่า บางเดือนยังพบว่ามูลค่าการส่งออกต่ำลงด้วยซ้ำ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง
"ยืนยันว่า ไม่มีการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปไปยังประเทศกัมพูชา 100% ในทุกรูปแบบการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางเรือ โดยข้อมูลของหลายฝ่ายสอดคล้องกันว่า ประเทศกัมพูชาสามารถซื้อน้ำมันโดยตรงจากแหล่งอื่นได้ เช่น สิงคโปร์ จีน หรือเวียดนาม ซึ่งมีราคาที่ไม่สูงขึ้น และปริมาณซัพพลายไม่ได้ขาดแคลน ขณะที่ผู้ประกอบการก็ยืนยันว่า น้ำมันที่มีการส่งออกไปเป็นการส่งออกเพื่อในใช้ประกอบกิจการในสปป.ลาวจริง" นายพันธ์ทอง กล่าว
ทั้งนี้ โดยหลักการแล้ว หากประเทศที่สามสามารถซื้อน้ำมันได้โดยตรงจากแหล่งที่ราคาถูกกว่า เช่น สิงคโปร์ หรือ จีน การซื้อผ่านหลายทอดต่อกันจะไม่สมเหตุสมผล แต่มาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการส่งออกจะต้องฟังฝ่ายความมั่นคงเป็นหลัก กรมศุลกากรมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามหากมีการออกประกาศเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
สำหรับปริมาณการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงของไทยไปยังกัมพูชาในปีงบประมาณ 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,229 ล้านลิตร ขณะที่ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยราว 1,172 ล้านลิตรต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนก.ค. 2568 เป็นต้นมา ไทยได้ระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา 100% โดยมีการส่งออกไปยัง สปป.ลาวแทน เฉลี่ยประมาณ 20 ล้านลิตรต่อเดือน
"แม้ว่าปริมาณส่งออกจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่กรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบการส่งออกน้ำมัน ณ ทุกจุด เพื่อให้แน่ใจว่าปลายทาง ของน้ำมันนั้นชัดเจนว่าไปที่ประเทศลาว" นายพันธ์ทองกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ข้อกังวลเรื่องการนำน้ำมันไปถึง สปป.ลาวแล้วจะมีการส่งต่อไปยังประเทศที่สามหรือไม่นั้น ยังเป็นข้อกังวลที่ไม่ได้ตัดทิ้งไป แต่ในทางปฏิบัติ กรมศุลกากรไม่สามารถตรวจสอบได้โดยตรงเมื่อสินค้าข้ามพรมแดนไปแล้ว จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการค้าชาวไทยที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทางลาว ให้ยืนยันว่าน้ำมันดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปส่งออกต่อยังต่างประเทศ โดยเฉพาะชายแดนกัมพูชา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลขาฯ ศรชล.แจง ไม่ได้ปิดอ่าวไทย มาตรการบังคับใช้เฉพาะเรือชักธงไทย สกัดน้ำมัน- ยุทธปัจจัยเข้ากัมพูชา
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.อ.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติท
‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา
"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา
ทภ.2 แจ้งสายข่าวพบ เตรียมส่งออกน้ำมัน จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กผิดปกติ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำ
ยังไม่ปิดอ่าวไทย ชงคำสั่งสกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย สมช.พรุ่งนี้
ทร.ยัน คำสั่ง จำกัดอาณาเขตอ่าวไทย สกัดน้ำมัน- ยุทธปัจจัย เข้า สมช.15 ธ.ค.ขอนุมัติ ยัน ไม่ใช้คำว่าปิดอ่าวไทย
‘พลังงาน’ ยันไม่มีส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาตั้งแต่ก.ค. 2568
พลังงานลั่นยึดความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ย้ำชัดไทยไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแจงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ผู้ค้าน้ำมันจะต้องรายงานข้อมูลปริมาณการส่งออกให้กรมธุรกิจพลังงานทราบ หากฝ่าฝืนไม่รายงานหรือรายงานข้อมูลเท็จจะมีโทษตามกฎหมาย

