
โฆษกรัฐบาลขอประชาชนมั่นใจ สธ. ยืนยันไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย ขณะที่ “นายกฯ” สั่งคุมเข้มทุกหน่วยงานทำงานเคร่งครัด รัดกุม ควบคุมเชื้อ
31 พ.ค.2565- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอความมั่นใจให้ชาวไทยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย โดยในส่วนของผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้มาต่อเครื่องในไทย 2 ชั่วโมง บินมาจากประเทศยุโรป เพื่อไปออสเตรเลียเมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทางแล้วจึงพบว่าเป็นผู้ป่วยยืนยัน ระหว่างต่อเครื่องผู้ป่วยรายนี้ยังไม่มีอาการป่วย จึงถือว่าผู้สัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เพราะตอนใกล้ชิดยังไม่ได้ป่วย จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัย อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้โดยสารเครื่องบิน ลูกเรือ รวม 12 คน ยังไม่พบว่ามีอาการ และจะติดตามให้ครบ 21 วัน ในส่วนของผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานรที่พบในประเทศไทย จำนวน 5 รายนั้น ทั้ง 3 รายแรกชาวไอร์แลนด์ ที่บินตรงไปที่ จ.ภูเก็ต และอีก 2 รายที่ยิมเดียวกัน จ.ภูเก็ต จากผลตรวจ ยืนยันตรงกันว่าไม่ใช่ฝีดาษวานร เป็นผู้ป่วยโรคเริม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบาย เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงายที่เกี่ยวข้องเคร่งครัด รัดกุมในการทำงานเพื่อปกป้องประชาชนไทยให้ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนร่วมกันสอดส่องดูแลโดยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด “นิยามผู้ป่วยสงสัย” ดังนี้
1.มีไข้มากกว่า 38 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดหลัง หรือต่อมน้ำเหลืองโต ไม่ว่าจะที่คอ ศอก ขาหนีบ 2.มีผื่นตามลำตัว ใบหน้า แขนขา ลักษณะเริ่มจากผื่น ตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง และตุ่มตกสะเก็ด ดังนั้น แม้จะไม่มีไข้ แต่มีผื่นเหล่านี้ ก็นับเข้านิยาม โดยทั้งหมดนี้จะร่วมกับประวัติเชื่อมโยงระบาดวิทยา ภายใน 21 วัน หรือก่อนมีอาการ คือ 1.มาจากหรืออาศัยในประเทศที่รายงานการระบาดฝีดาษลิง เช่น แอฟริกา แคนาดา สเปน โปรตุเกส และอังกฤษ 2. ร่วมกิจกรรมในงานที่พบผู้ป่วยฝีดาษ หรือมีอาชีพสัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ และ 3.สัมผัสใกล้ชิดสัตว์ป่า
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดให้ โรคฝีดาษลิงในไทยยังไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย ยังเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังเหมือนโรคไข้เลือดออก มาลาเรีย อีสุกอีใส อหิวาตกโรค จึงยังไม่มีการเริ่มกักตัวจนกว่าจะเข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วยก่อน ซึ่งกรมควบคุมโรคเตรียมทีมสอบสวนโรคทุกจังหวัด หากพบผู้ป่วยเข้ามาต้องสอบสวนให้ทันภายใน 24 ชั่วโมงแรก รวมถึงติดตามเตรียมเวชภัณฑ์ ยา และวัคซีนด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
ครม. เคาะ 3 มาตรการด้านการเงิน ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย พักเงินต้นยกดอกเบี้ย สินเชื่อสร้างอาชีพ กู้ยืมซ่อมบ้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย โดยครม.เห็นชอบ 3 นโยบาย
ครม.อนุมัติค่าปลงศพน้ำท่วมสงขลา รายละ 2 ล้าน เคาะงบกลาง 530 ล้าน ฟื้นฟูหาดใหญ่
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีข้อสั่งการกรณีอุทกภัยที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร
"พัฒนา" เมิน "บิ๊กโจ๊ก" ปูดตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน ชี้ตัวเลข 140 รายของสธ. ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์ชี้ชัดอะไรไม่ได้
สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิต 'น้ำท่วมสงขลา' 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย
นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า จะยึดข้อมูลที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นหลัก เพราะศูนย์รวบรวมศพผู้เสียชีวิต ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลา 16.00 มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน
ช่วยครัวเรือนละ 9 พันบาท หลักเกณฑ์ใหม่เยียวยาผู้อาศัยในพื้นที่น้ำล้อมรอบเกิน 7 วัน แม้ไม่ท่วมบ้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 เพิ่มเติมตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ


