ศธ.ออกแนวปฏิบัติ หักเงิน 'ช.พ.ค./ช.พ.ส.' เพิ่มสภาพคล่องเพื่อการชำระหนี้

29 มิ.ย.2565- นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษา ภายใต้โครงการ “สร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย” ว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาถึงแนวทางในการนำเงินบำเหน็จบำนาญ จ่ายสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค. ) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีคู่สมรสถึงแก่ความตาย (ช.พ.ส.) มาใช้ประโยชน์เพื่อการขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งนี้เงิน ช.พ.ค. และเงิน ช.พ.ส. เป็นเงินสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่สมัครใจเข้าร่วมขอรับสวัสดิการ โดยต้องชำระเงินเป็นรายเดือน โดยผู้ขอรับสวัสดิการสามารถชำระโดยตรง หรือชำระโดยหักจากเงินเดือน แต่เนื่องจากสมาชิกที่ขอรับสวัสดิการที่ชำระด้วยการหักจากเงินเดือนจำนวนมากต้องเสียสิทธิประโยชน์ไม่ได้รับเงินสงเคราะห์เมื่อขาดการชำระเกิน 3 เดือน เพราะเงินเดือนต้องถูกหักชำระหนี้เงินกู้อื่นๆ ก่อน รวมแล้วเกินกว่าร้อยละ 70 ส่งผลให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต โดยสมาชิก ช.พ.ค./ช.พ.ส. เมื่อเสียชีวิต ครอบครัวจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละประมาณ 940,000 บาท ซึ่งหากให้ความช่วยเหลือแก่ครูในกลุ่มนี้สามารถหักชำระเงิน ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.ได้ตรงงวด จะสามารถนำเงินสิทธิประโยชน์ของตนเองที่จะได้รับมาใช้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินในปัจจุบัน

นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ของ ศธ.ได้อย่างเป็นระบบและเป็นการบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาให้สัมฤทธิ์ผล โดยครูยังคงมีเงินเหลือใช้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 จึงได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ของ ศธ. ทำบันทึกข้อความ เรื่อง แนวปฏิบัติการหักเงินเดือน เงินบำเหน็จบำนาญ จ่ายสวัสดิการ ช.พ.ค. / ช.พ.ส. ถึงทุกหน่วยงานในสังกัด ศธ. เพื่อขอความร่วมมือแจ้งให้หน่วยงานภายในของตนเองดำเนินการหักเงินเดือน เงินบำเหน็จบำนาญ เพื่อชำระหนี้เงินสวัสดิการ ช.พ.ค./ช.พ.ส. ตามแนวปฏิบัติที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ของ ศธ.นำเสนอ


“เป็นความตั้งใจ และมุ่งมั่นของ ศธ.ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ให้สำเร็จให้ได้ หากการดำเนินนโยบายในเรื่องใดที่จะเป็นช่วยเหลือ และเอื้อประโยชน์ของคุณครูทั่วประเทศ ก็พร้อมที่จะดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่ง ศธ.จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนระดับประเทศ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าว และว่า การดำเนินการในครั้งนี้ จะช่วยเหลือให้ครูสามารถใช้เงิน ช.พ.ค./ช.พ.ส. เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ โดยไม่เป็นภาระที่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อประกันเงินกู้เพิ่ม

ด้านนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือลงวันที่ 28 มิถุนายน 2565 เรื่องแนวปฏิบัติการหักเงินเดือน เงินบำเหน็จบำนาญ จ่ายนสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ ช.พ.ค./ช.พ.ส. ถึงทุกหน่วยงานในสังกัด ศธ.เพื่อดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย โดยเน้นย้ำว่า การดำเนินนี้ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ขอรับสวัสดิการ ช.พ.ค./ช.พ.ส. ทุกคน ทั้งนี้ มีครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้สินในระยะที่ 1 จำนวน 41,128 ราย มียอดหนี้รวม 58,835,199,322 บาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เสมา2' ลุยตรวจเยี่ยมให้กำลังใจโรงเรียนประสบอุทกภัยในจ.นราธิวาส​ พร้อมรับฟังข้อมูลความเสียหาย ก่อนของบกลางดูแลช่วยเหลือเร่งด่วน​ตามลำดับ 'โรงเรียนสีแดง​-เหลือง-เขียว'

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ ณ โรงเรียนอัลเราะห์มานวิทยา ,โรงเรียนบ้านสาเมาะ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส

ป.ป.ช. เปิดกรุสมบัติ 'อิทธิพล-ตรีนุช' กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายอิทธิพล คุณปลื้ม กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม โดยนายอิทธิพล แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,162,381 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 543,016 บาท

กทม. โยนมหาดไทยสางหนี้ ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ ก้อนแรก 2.3 หมื่นล้าน

กทม.เตรียมโยนมหาดไทยสางหนี้ ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ ก้อนแรก 2.3 หมื่นล้าน พร้อมจ่อเก็บเงินค่าโดยสาร 15 บาท ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ม.ค.นี้ หวังนำมาชำระหนี้เอกชนบางส่วน