‘พิ้งกี้ - แตงโม’ เปิดสัมพันธ์ 21 ปี เคลียร์ประเด็นออกจากวงการเป็นแม่ค้า

สองนางเอกสาวระดับตำนาน อย่าง พิ้งกี้ สาวิกา และ แตงโม นิดา จะมาเปิดเผยความสัมพันธ์ 21 ปี จากเพื่อนซี้วัยเด็กสู่นางเอกร่วมช่อง พร้อมเผยความลับของทั้งสองสาวที่ไม่เคยพูดที่ไหน พร้อมเคลียร์ข่าวเม้าท์สองนางเอกสาวขาลง เตรียมออกจากวงการไปเป็นแม่ค้าไลฟ์สด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 

สองคนนี้เป็นเพื่อนกันมา 21 ปี?

แตงโม : ใช่ค่ะๆ เราเรียน ม.ต้น ม.ปลาย

เรียนห้องเดียวกัน?

พิ้งกี้ : ใช่ค่ะ ตอนนั้นหนูเข้าวงการแล้ว ส่วนโมจะเริ่มตอน ม.ปลาย

แตงโม : โมเริ่มประกวดมิสทีนไทยแลนด์ ก่อนหน้านั้นเราก็จะอยู่แบบคลาสร้องเพลง เราเรียนร้องเพลงมาด้วยกัน มีพี่บิ๊ก D2B ด้วย

พิ้งกี้ : เราเป็นเด็กกิจกรรม เวลาโรงเรียนมีประกวดอะไร อาจารย์ก็จะส่งพวกเราไปร้องเพลง

สองคนนี้สนิทกันมาก แต่คาแร็กเตอร์แตกต่างโดยสิ้นเชิง?

แตงโม : กี้เป็นคนเรียบร้อย กี้เป็นเด็กเรียน และเป็นเด็กขี้อาย กระเป๋านักเรียนของกี้ใหญ่มาก แต่ของโมคือแบน โมจัดตารางสอน แต่กี้ไม่เคยเอาหนังสือออกเลย

พิ้งกี้ : เป็นคนจัดตารางสอนอยู่แหละ แต่เป็นคนเผื่อเหลือ เผื่อขาด แล้วเวลาไปใส่กระโปรงยาวมาก จำได้ว่าโมสอนกี้ให้พับกระโปรง แต่เราก็ไม่มั่นใจ ปล่อยไปแบบนั้นแหละ คือเป็นเด็กเรียบร้อย

สนิทกันได้ยังไง?

แตงโม : เราสนิทกันตอนที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องร้องเพลง ตอนนั้นคนน้อยที่จะเรียน มันเป็นวันเสาร์ เวลาคาบเช้า เราก็จะคุยเล่นกันตามภาษาชะนี กับเพื่อนผู้ชายคงคุยไม่รู้เรื่อง

แต่สนิทกันมากขึ้นตอนที้พิ้งกี้มานอนบ้านแตงโม?

พิ้งกี้ : แตงโมนอนบ้านฉัน

มันมีความลับอยู่อันนึงที่แตงโมไปนอนบ้านพิ้งกี้ จนทุกวันนี้พิ้งกี้ไม่รู้ความลับนั้นเลย?

แตงโม : ไม่ได้เหตุผลนั้นสักหน่อย แต่โมคิดว่ากี้รู้ แม่กี้ก็รู้

โมเขาเป็นแฟนกับพี่เรา รู้ไหม?

พิ้งกี้ : เหมือนมีข่าวสะพัดในตอนนั้น แต่ไม่เชื่อ จริงเหรอ โมจะคบกับพี่ชายเราได้ยังไง

แตงโม : เพราะอายุต่างกันมาก พี่ชายคนโตอะ

ตอนนั้นเป็นแฟนกับพี่ชายพิ้งกี้จริงหรือเปล่า?

แตงโม : ไม่ถึงขั้นเป็นแฟน แต่คุย มีวันนึงไปเที่ยวเจอกัน คือเที่ยวในกลุ่มรู้จักกัน ช่วงนั้นโตแล้วล่ะ ก็ได้ยินมาว่าเขาซ่อมคอมได้ พอดีบ้านเราคอมเสีย เราก็แบบเธอมาช่วยซ่อมให้หน่อยสิ ก็มีไปเที่ยวด้วยกันเยอะเหมือนกันนะคะ แล้วก็มาบ้าน 2-3 ครั้งเอง แล้วมีโมไปบ้านกี้

ถามจริงกี้รู้ไหม?

พิ้งกี้ : ฉันรู้ แต่พอไม่ได้เจอโมพี่พวกนั้นมาบอกว่ารู้ไหมว่าเคยคบกับโม ตอนไหน แต่ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง ก็บอกแล้วว่าเขาฮอตจริงๆ ผู้ชายทุกคนหลงเขา ชอบเขา เพราะเขาสวย เมื่อก่อนเขาน่ารักมาก

เห็นว่าพอโมมาที่บ้าน กี้อยู่ พี่กานต์อยู่ เขาจะทำเป็นไม่รู้จักกัน?

แตงโม : ใช่

พิ้งกี้ : อันนี้โง่ ไม่รู้

แตงโม : หรือว่าไปแล้วไม่เจอพี่เขาสักอย่าง คือโมตั้งใจไปนอนกับกี้ เพราะว่ากี้มีแมว

พิ้งกี้ : เราไม่หวง ไม่หวงพี่ชายเลย ถ้าตอนนั้นรู้จะไปบ้านโมแทน ห่วงเพื่อนมาก เราอยู่กับเพื่อน เรารักโมมาก

ทำไมตอนนั้นโมไม่บอกกี้?

แตงโม : กลัวเสียเพื่อน

พิ้งกี้ : เราสองคนผ่านเรื่องเพื่อนมาเยอะเนอะ

ความรักทั้งคู่เป็นยังไงบ้าง?

แตงโม : ดี แฮปปี้มาก เขาชื่อ คุณเบิร์ด คบกันปีกว่าแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่อ่อนน้อมถ่อมตน เขาเป็นคนมีจิตใจเมตตา เอ็นดูคน สงสารคน รักครอบครัว เป็นผู้นำที่ดี สำหรับโม โมชอบผู้ชายผมยาวแล้วตาหวานยิ้มสวย ตาเจ้าเล่ห์ แบบตาเจ้าชู้ เซอร์ๆ หน่อย

 

ตั้งแต่โมคบคนนี้ชีวิตโมมีความสดใส ร่าเริงขึ้นเยอะเลย?

แตงโม : ใช่ มีแต่คนทัก คุณเบิร์ดนี่แหละขุดโมขึ้นมาจากเตียง ตอนที่ป่วยมากๆ

พิ้งกี้ : ก็ไม่มีคนเข้ามาแล้วกัน แต่ว่ามีคนจีบแล้วกัน

 

เห็นแม่เล่าให้ฟังว่าเวลามีคนมาจีบกี้ กี้จะบอกว่ามีแฟนแล้ว?

พิ้งกี้ : ใช่ค่ะ เบลอใส่ เหมือนที่โมบอก เดี๋ยวนี้มีคนฝากมาขอเบอร์ พอเราเห็นก็บอกว่า บอกเขาไปเลยพี่ว่าหนูมีแฟนแล้ว หรือว่ามีคน DM มาแบบอยากจีบ แล้วหนูก็จะไม่อ่านก็คือเบลอใส่ เป็นคนแบบถ้าเราไม่ได้เลือกเองเราจะเบลอ

 

แสดงว่าตอนนี้เราไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องความรัก?

พิ้งกี้ : ไม่เลย เรามุ่งกับเรื่องงาน คือมันเสียเวลานะ ถ้าเกิดมันไม่ใช่ แล้วหนูรู้สึกไม่ได้รีบ เวลาคือเดินไป แต่ตัวเราไม่ได้รีบร้อน

 

มันเหมือนเราเข็ดกับเรื่องความรักด้วยไหม?

พิ้งกี้ : ไม่ค่ะ หนูเชื่อนะยิ่งประสบเจอเร็ว ยิ่งเก็ทเร็ว เราผ่านการเรียนรู้หลายๆ ขั้น ในวัย 28-29-30 ถือว่าไวมาก แล้วตอนนี้หนู 35 ซึ่งันเป็นจุดสตาร์จของเพื่อนๆ หลายคนที่เพิ่งเริ่มแต่งงานด้วยซ้ำ ซึ่งถือว่าสบาย

 

แสดงว่าสมัยก่อนไม่ได้แฮปปี้ แต่ก็ไม่เสียใจที่ผ่านมันมา?

แตงโม : ใช่ค่ะ รู้สึกขอบคุณมากกว่า เพราะว่าถ้าไม่มีวันนั้น ไม่มีคนคนนั้น ก็ไม่มีโมวันนี้ที่จะรักเป็นมากขึ้น

 

ทั้งสองคนยังไม่คิดว่าการแต่งงานจะสำคัญกับตัวเองในช่วงนี้?

แตงโม : ใช่ค่ะ ไม่คิดเลย

 

ถ้าเบิร์ดคุกเข่าพรุ่งนี้แต่งไหม?

แตงโม : หนูแต่ง แต่ไม่มีงานให้จัดนะคะ หนูก็จะแต่งกันเงียบๆ 2 คน

พิ้งกี้ : คำว่าแต่งงาน มันเป็นแค่คำจำกัดความเฉยๆ เราเชื่อว่าความรักมันเกิดขึ้นได้ แต่ความเข้าใจคนที่อยู่ข้างๆ สำคัญที่สุดเลยคือชีวิตเรามันยังเดินทางอีกยาวไกล บอกสาวๆ เลยว่า ถ้าวันนี้เราไม่สามารถประคองตัวเอง มีความแข็งแกร่งในตัวเอง เราจะไม่สามารถหาคู่ได้ที่เราจะไปซัพพอร์ตดูแลกันและกัน

 

คู่ที่เราอยากได้ต้องเป็นแบบไหน?

พิ้งกี้ : ต้องการคนสบายๆ แต่ขอผู้ใหญ่กว่า แบบสบายๆ ทำอะไรก็ได้ อยู่กับธรรมชาติที่สุด ไม่ปรุงแต่ง เพราะชีวิตเราเรียบง่าย เอาให้มันอยู่ในความสมดุลของธรรมชาติสุด

 

ถ้าเราไม่เจอผู้ชายที่เราคิด ยอมเป็นโสดตลอดชีวิตไหม?

พิ้งกี้ : มันต้องเจอสิ

 

แสดงว่าชีวิตจะไม่มีทางโสด?

พิ้งกี้ : บ้าเหรอ ใครจะโสดไปถึง 40-50

 

แต่แม่เราอยากให้เรารีบแต่งงาน?

พิ้งกี้ : แม่ไม่ได้บังคับ ไม่ได้อะไร ปล่อยไปตามวิถีชีวิต แต่แม่บอกว่าปีหน้าแม่นัดหมอไว้แล้ว เก็บไข่ แม่อยากมี แต่แม่เป็นคนไม่ก้าวก่ายชีวิตเลย แม่แบบลูกเผื่อไว้ อนาคตไม่แน่นอนนะ เก็บไว้หมอนี้ดี

 

โมอยากมีลูกไหม?

แตงโม : ณ ตอนนี้คือไม่พร้อมเลย เพราะว่าโมเลี้ยงอีสเตอร์ ถามว่าอยากฝากไข่ไหม ก็สนใจนะคะ อนาคตคิดว่าน่าจะอยากมี เพราะว่า อีสเตอร์ ก็อยากมีน้อง

 

คนที่มาจีบตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

พิ้งกี้ : คนที่เข้ามาอยู่ใน DM เราก็เข้าไปดูโปร์ไฟล์ เขียนมาซะยาวเลย เป็นภาษาอังกฤษ เราก็ไม่ตอบ

แตงโม : ของกี้เป็นหรือเปล่าไม่รู้ ส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลี ฮ่องกง จีน เป็นทหาร คือเยอะมากที่แปลกๆ

พิ้งกี้ : พวกนั้นก็มี พวกนั้นแยกไป แต่อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นใคร น่าจะเป็นนักธุรกิจ

 

เพื่อนแนะนำเพื่อนมีไหม?

พิ้งกี้ : เพื่อนไม่ยุ่ง เพราะเพื่อนแต่งงานมีลูกแล้ว แต่จะมีแบบใครก็ไม่รู้ แบบพี่เคยรู้จัก เคยเจอน้อง เราก็หม่ได้สนิทกับเขามาก เออ...มีเพื่อนพี่เขาอยากจีบน้อง พอจะเปิดใจไหม พอเขาบอกใครอะพี่ อ่อหนูมีแฟนแล้วค่ะ

 

วันนี้โสดหรือไม่โสด?

พิ้งกี้ : โสดค่ะ

ณ ตอนนี้สิ่งที่ทั้งคู่ทำเป็นหลักเลยคือไลฟ์ขายของ?

พิ้งกี้ : ไลฟ์ขายของมา 6 เดือนเอง จริงๆ มันเริ่มจากเราว่าง เพราะว่าโควิด มันไม่มีอะไรเลย มันเริ่มจากอยู่บ้านก่อน ดื่มชา แล้วขายไปมันเกิดจากของวินเทจที่หนูสะสม แล้วมันก็ขยายไปเป็นของอื่นๆ  เริ่มต้นขายไม่ได้คิดอะไร เมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่แล้ว แต่ก็ทำไปเรื่อยๆ ทำไปทุกวันจนกระทั่งวันนี้มันเติบโตขึ้น

 

ตอนแรกเราคาดหวังไหม?

พิ้งกี่ : อันนี้เป็นน้ำหอมที่มีอยู่ หนูเป็นคนสะสมน้ำหอม หนูเอาที่มีอยู่ก่อน แล้วหนูค่อย้อาของคนอืานบ้าง แล้วค่อยขยายเป็นของเยอะ เวลาหนูมีวันว่างหนูไม่ปล่อยให้มันว่าง หนูก็จะไลฟ์ขายทุกอย่าง ตอนนี้ขายขนมญี่ปุ่น เกาหลี ที่หาที่เมืองไทยไม่ได้ แล้วมันค่อยๆ มีแสง มีระบบขึ้นมา จากไม่มีอะไรเลย จนวันนี้มันเริ่มมีระบบดูด

 

สมัยก่อนแค่เอามือถือตั้ง แล้วตอนนี้มีทีมงานกี่คน?

พิ้งกี้ : ใช่ค่ะ ตอนนี้ทีมงานก็เริ่มเป็น 2-3 คนขึ้น เมื่อก่อนหนูแพ็คเอง เขียนเอง เมื่อก่อนมันไม่มีแปะใช่ป่ะ หนูเขียนเอง ทำทุกอย่างเองกับน้องอีกคน แล้วหนูรู้สึกว่าทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ ปกติถ่ายละครเหนื่อยแล้วนะ แต่นี้มันเหนื่อย แล้วพอเรารู้สึกว่าเราทำเองทุกขั้นตอน แล้ววันนี้เราบอกว่ากว่าเขาจะเติบโตในการค้าขายมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

 

ไลฟ์นานสุดกี่ชั่วโมง?

พิ้งกี้ : ช่วงแรกๆ หนูไลฟ์ 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ 22.00-02.00 น.  แล้วหนูก็ไลฟ์ แล้วแฟนๆ ก็บอกแม่อย่าเพิ่งไป อยู่กันก่อน

 

แล้วรายได้ดีจริงใช่ไหม?

พิ้งกี้ : จริงๆ รายได้หนูไม่ได้เท่ากับคนอื่นที่เขาขายจริงจัง หนูเป็นแบบพอมี พอไปเรื่อยๆ เท่าที่เห็นหนูไม่เคยบูทโพสต์เลย เพราะฉะนั้นคนที่เข้ามาจะเป็นฐานแฟนทั้งหมด ก็จะได้เงินจากส่วนที่เห็น ไม่ได้เป็นโรงงาน

 

ตอนนี้เปิดบริษัท เข่าตึกเลย?

พิ้งกี้ : เช่าตึกเพราะว่าเก็บของไง มีน้องแอดมิน จริงๆ ตอนนี้ต้องขยายอีก เพราะของมันมีอยู่เยอะ แล้วหนูก็ไลฟ์ในนั้นเลย

 

ถ้ามันดีขนาดนี้ วันนึงจะเลิกเล่นละคร ขายของไลฟ์อย่างเดียว?

พิ้งกี้ : มีคนบอกว่าพิ้งกี้จะลาออกจากวงการไปขายของ หนูก็เลยบอกว่าบางคนทำอาชีพเดียวไม่พอ เราต้องเป็นมนุษย์ 10 อาชีพ  เป็นแม่ค้า เป็นดารา เป็นนักร้อง เป็นทุกอย่าง คือจะบอกว่าอย่าปล่อยวันว่าง ถ้าเราว่างต้องหาอะไรทำที่มีประโยชน์

 

แตงโมก็ขายของเหมือรกัน มีคนบอกว่าแตงโมไม่มีงานเลยมาขาย?

แตงโม : ไม่เกี่ยวกับงานเลย การออกไปเป็นแม่ค้าเนี่ย โมว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนอื่นด้วยซ้ำ ที่เขาไม่มีหนทางในการทำงานยุคนี้ สถานการณ์แบบนี้ คือลงไปอยากจะให้เป็นแรงบันดาลใจของคนอื่น แต่ว่าข่าวที่ออกมา มันค่อนข้างที่จะพาดหัวแรงไปนิดนึง แล้วก็เราได่คุยกับทางที่เขาพาดหัวมาแล้ว เขาก็ได้ขอโทษกันมาแล้ว ของหนูขายเน้นเป็นเสื้อผ้าแล้าก็เครื่องประดับ

 

ตอนนี้ข่าวเม้าท์มาจากเพจดังว่ามีนางเอกดั้งพุ่งปฏิเสธการไลฟ์สดขายสินค้า เพราะรู้สึกว่าเป็นการลดเกรด?

พิ้งกี้ : ในมุมของเรา การไลฟ์สดมันเป็นกระแสโลกที่มันเปลี่ยนไป คนนี้อาจจะเป็นข่าวจริงหรือไม่จริงก็ได้นะ ไม่รู้ แต่ว่าบางคนอาจจะปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ทันกับโลก ก็อาจจะยากในอนาคต บางทีการไลฟ์สดมันเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับโลก ตอนนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไลฟ์สดอันดับ 2-3 รองจากจีนนะคะ ทั่วโลกยังไม่มีใครไลฟ์สดถี่เท่ากับบ้านเรา

แตงโม : การเป็นแม่ค้า จริงๆ แล้วทุกๆ อาชีพมันมีคุณค่าในตัวมันเอง ไม่อยากให้ไปด้อยค่าในอาชีพใด อาชีพนึงเลย เพราะว่าในเมื่อคุณยังได้รับเกียรติก็ต้องให้เกียรติเราด้วย เราก็ทำงานสุจริตนะคะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีเค' เผยจุดเปลี่ยนที่กระทบชีวิต

เปิดตัวแรง! ตั้งแต่ EP1 หลังคว้าคาสโนว่าตัวพ่ออย่าง พีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร มาร่วมพูดคุยเรื่องราวในอดีต พร้อมเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบกับชีวิต ในรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ใหม่ จุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS ทางพีพีทีวี ช่อง 36 ซึ่งรับหน้าที่พิธีกรดำเนินรายการโดย น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา

'หนิง ปณิตา' ตื่นเต้นบทบาทใหม่ นั่งจ้อข่าว 'Green Morning Show'

กรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม ต้อนรับ หนิง-ปณิตา พัฒนาหิรัญ พิธีกรสาวสวยมากความสามารถกับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ล่าสุด พิธีกรรายการข่าวใน Green Morning Show รายการทอล์กข่าวยามเช้าทางคลื่นวิทยุกรีนเวฟที่โกยเรตติ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

'น้าเน็ก' เตรียมรับหน้าที่พิธีกรอีกครั้ง ประเดิมขยี้ชีวิต 'พีเค ปิยะวัฒน์'

น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พิธีกรมาดกวน เตรียมรับหน้าที่ดำเนินรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ใน จุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS ทางพีพีทีวี ช่อง 36 ครั้งแรก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อย่าให้อดีตเคยสุด ต้องมาหยุดอยู่กับหมอ” พบกับแขกรับเชิญสุดพิเศษที่เคยใช้ชีวิตมาอย่างสุดโต่งในแต่ละวงการ พร้อมแชร์ประสบการณ์ และแง่คิดเรื่องการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลดี ๆ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ด้วย

เปลือยชีวิต 'แอ๊ว อำภา' รับมีกรรมเรื่องความรัก เล่านาทีโดนทำของใส่จนปางตาย

นักแสดงตัวแม่มากความสามารถ แอ๊ว-อำภา ภูษิต ที่วันนี้มาเปิดชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 47 ปี และย้อนเล่าชีวิตรักสุดทรมานที่บอกเลยว่าเป็นวิบากกรรมที่ทำให้เจ็บจนถึงทุกวันนี้ พร้อมเล่าเหตุการณ์เจอคนทำของใส่และนาทีวิญญาณเอาชีวิตผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow

'หนิง ปณิตา' แอดมิทด่วน ทำแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดล่ม

ทำเอาแผนที่เตรียมไว้พังไม่เป็นท่า สำหรับ แนน ชุมพิชา ที่ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์พี่สาวอย่าง หนิง-ปณิตา ในวันคล้ายวันเกิด แต่สุดท้ายสาวหนิงกลับล้มป่วยจนต้องแอดมิทนอนโรงพยาบาล โดยแนนได้โพสต์ภาพหนิงที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วยในโรงพยาบาล พร้อมกับระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

คู่กรณี 'หนิง ปณิตา' อัดคลิปขอโทษ ผิดที่เชื่อคำพูดผู้ชาย

จบซะทีสำหรับกรณีที่ หนิง-ปณิตา พัฒนาหิรัญ เป็นโจทย์ยื่นฟ้องบุคคลที่ 3 ที่ทำให้ความสัมพันธ์กับอดีตสามี จิน-จรินทร์ ธรรมวัฒนะ ต้องจบลงด้วยการหย่า โดยล่าสุด หนิงได้เดินทางมาตามนัดศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไกล่เกลี่ยคดีฟ้องมือที่สาม และศาลตัดสินสั่งให้ เอ็ม เมทิกา ซึ่งเป็นคู่กรณีของหนิง ขอโทษผ่านทางโซเชียล