'โน้ต จูเนียร์' ขอตัดขาดแม่-ลูก ทนมาตั้งแต่เด็กจนตัวเองและน้องซึมเศร้า!

เรียกได้ว่าทนไม่ไหวแล้ว สำหรับ โน้ต จูเนียร์-วรวิทย์ ผ่องอินทรีย์ ลูกชายคนโตของตลกดัง โน้ต เชิญยิ้ม-บำเรอ ผ่องอินทรีย์ ที่ล่าสุดออกมาโพสต์เล่าถึงความอัดอั้นที่มีมานานจนถึงจุดแตกหักกับคุณแม่

“บันทึกไว้วันนี้ 16 มิ.ย. 68 เรา 3 คนพ่อแม่ลูก กอดคอร้องไห้กันมาทั้งคืนแล้ว ในคืนที่ผ่านมา แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป…

อยากได้อะไรก็เอาไป จะเอาคืน หรือจะเรียกอะไรก็ได้ เรา 3 คนพ่อแม่ลูก จะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ แม้ตอนนี้จะเสียหลักบ้าง แต่เราเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ แค่ขอเวลาตั้งหลักจัดการทุกอย่างไม่นาน อย่างน้อยๆ ก็หวังว่าจะมีความเป็นมนุษย์กับเด็กอายุ 9 ขวบหน่อย…

“เราจะสร้างบ้านใหม่ ที่จะไม่มีใครมาทำร้ายเราได้อีก เราจะสร้างบ้านที่ไม่มีใครสามารถไล่เราเหมือนหมูเหมือนหมาได้ เราจะหาพื้นที่ของเราที่ไม่ต้องถูกทวงคืนขับไล่ทุกครั้งที่มีปัญหากัน”

เรื่องที่รู้สึกผิดเรื่องเดียวคือ การที่เด็ก 9 ขวบต้องมารับรู้สถานการณ์ระยำแบบนี้ เพิ่งเคยได้ยินลูกสาวพูดคำว่าเกลียดครั้งแรก เหมือนกัน แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร กับสิ่งที่ถูกกระทำ

ปล. สำหรับญาติหรือคนรู้จักท่านไหนที่รับรู้เรื่องราวข้างเดียว แล้วอยากเชื่อ อยากสนใจ…จงเชื่อ ตามที่คุณจะเป็น จะคิด เพราะผมเชื่อว่า ถ้าคุณรู้จักผมจริงๆ คุณจะรู้ว่าอันไหนจริง ไม่จริง ด้วยตัวคุณเอง

ใครไม่เข้าใจก็ช่าง อยากเชื่ออะไรก็เชื่อ นี่คิดว่าพิสูจน์ความเป็นตัวเองมากพอที่จะไม่สนใจแล้วว่าคนชื่อไอ้โน้ต เป็นคนยังไง และผมอดทนมานานพอแล้ว

สุดท้ายนี้ ผมเลือกจะเป็นผู้ชายที่จะปกป้องครอบครัวของผม ไม่ให้ใครมาทำร้ายได้อีกครับ แม้ในวันที่จะถูกทวงคืนทุกอย่างจนไม่เหลืออะไรก็ตาม ชีวิตเริ่มต้นใหม่ในอายุ 44, 35 และ 9ขวบ เราจะต้องรักษารอยยิ้มนี้กันไว้ให้ได้”

จากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็ได้โพสต์ถึงจุดเริ่มต้นของการแตกหักครั้งนี้ว่ามาจากการทะเลาะกันในการทำธุรกิจแล้วลามมาถึงเรื่องบ้านที่อยู่

“จุดเริ่มต้น เรื่องงานขายปลาสลิด ที่เราช่วยคอนเนคชั่นให้แต่แรก (เพื่อนเราเป็นเจ้าของบ่อ) พอเริ่มธุรกิจ เราเลือกไม่ยุ่ง แค่ช่วยนิดหน่อย เพราะรู้ว่าทำงานด้วยกันไม่ได้ เคยลองแล้ว ไม่รอด

เกิดเหตุ ทะเลาะกับเอิท เรื่องงาน แล้วลามมาว่า “มึงเก่งกันนัก บ้านที่มึงอยู่ก็จ่ายกันเอง กูไม่จ่าย” นี่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ก็ เห้ย เกี่ยวอะไร เถียงเรื่องงาน ลามมาทำไม

อธิบายแบบเข้าใจ บ้านที่ผมอยู่ตอนนี้ แต่ก่อนเป็นออฟฟิศ เงินใครไม่รู้ อาจเงินป๋า หรือเงินเค้า แต่เค้าจ่ายค่าบ้านมาตลอด ก็เงินที่ป๋าทำมาแหละ อยู่ๆมาบอกให้จ่ายเอง จริงๆก็ไม่ได้ติด แต่ก็ต้องใช้เวลา งานเปิดกล้องปลายปี แต่นี่ ปุปปัป จะไล่ออก ไม่ต้องให้มาเหยียบบ้าน ถ้าไม่จ่าย หรือไม่งั้นเอาเงินมา3ล้าน (เหมือนที่เห็นในรูป) แล้วทวงหมดทุกอย่างที่เคยให้

วันเกิดเหตุ ยอมรับว่าด่ากลับ เพราะเรื่องนี้มีผลกับสไมล์ เรื่องที่อยู่อาศัย ที่ป๋าให้ไว้ ซึ่งเค้าก็เคลมว่าเป็นของเค้าทุกอย่าง ทุกบาททุกสตางค์ ทั้งที่ป๋าทำงานมาตลอด (ตลก) อะ ของเค้าก็ได้ แต่บ้านเป็นชื่อ ป๋ากับผมนะ แต่ไม่เป็นไร 3ล้านไม่มีให้หรอก ออกก็ออก จริงๆนี่ป๋าก็ไปต่อรองให้ ว่าให้หาที่ให้อยู่ได้ก่อน ไม่งั้น วันนี้คงต้องหนีไปนอน รร แล้วล่ะ คิดดู คนหาเงินมา40-50ปี ไม่มีอะไรซักอย่าง เมียเคลมว่า เป็นของตัวเองหมด ป๋าใช้เงินทีบ้านแทบแตก ตัวเองซื้อรองเท้าคู่เป็นหมื่น

จุดเริ่มต้นแตกหัก มันสะสมมาตั้งแต่ทำงานด้วยกัน สร้างเรื่องไว้ จนผมต้องขึ้นศาล (ถึงจะนิติบุคคลก็เถอะ) แต่มักง่าย จ้องแต่จะโกงถาษี อะไรก็ไม่จ่าย สุดท้าย คนซวยคือกูจ้ะ กรรมการ เดี๋ยว4 กค นี้ขึ้นศาล (และตามนิสัยแล้ว สงสัยกูได้ไปคนเดียว) นี่ทำออฟฟิศมา ตั้งแต่เชิญยิ้มทีวี จนปัจจุบัน ที่ทำหนัง ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลย แล้วนี่ต้องรับผิดชอบ สุดท้ายไปถึงหมายจับ ห้ามออกนอกประเทศด้วย นี่คือสิ่งที่คนเป็นแม่ทำกับลูกเหรอ

เวลาทะเลาะทุกครั้ง สาปแช่ง ด่าหยาบคาย เขวี้ยงของใส่ ตั้งแต่เด็กจนโต จาน มีด รีโมท แก้ว แช่งสารพัด ให้ตายโหงตายห่า และไล่ออกจากบ้าน บ้านกูเงินกู ลูกทุกคนโดน อยู่ที่ใครทนไหวมั้ย มีที่ไปมั้ย

โอเค นี่ก็ยอมออกให้ เมื่อวานยอมรับว่า โต้กลับแรงมากเหมือนกัน (เรียกว่าเนรคุณก็ได้ ถ้าฝั่งนั้นยังมีความเป็นแม่นะ) เพราะทนมาตั้งแต่เด็ก ยังไม่นับว่า คนเป็นย่าภาษาอะไร ไม่สนเลยว่าหลาน9ขวบจะยังไง เอาแค่ตัวเองอยากชนะลูก เออ โอเค ออกให้ แต่ก็หวังว่าจะยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง อย่าให้หลานเกลียดไปมากกว่านี้เลย นี่สไมล์พูด้องด้วยว่า หนูขอบล็อคย่านะ งงปะเด็ก9ขวบ ยังเอือม บอกให้สอนบล็อกหน่อย

เวลาโมโหขึ้นมา ด่าเสียหาย ล่าสุด วันเกิดสไมล์ 17 ก.พ. เพื่อนสไมล์กับพ่อแม่เค้าเต็มเลย ด่ากูจ้ะ ทั้งที่กูคุยเรื่องคดี ที่ต้องขึ้นศาลให้น้าฟ้ง และส่วนตัวนี่ไม่เชื่อใจ ไอ้คนที่ดูแลเรื่องภาษีให้ไง เพราะแม่งปล่อยมาจนโดนฟ้องเนี่ย ศาลล้มละลายนะเห้ย แล้วเดี๋ยวดูนะ 4 ก.ค. นี้ นี่ต้องไปคนเดียว ทั้งที่ ตัวเองดูเรื่องเงิน แต่ปล่อยให้ลูกเจอปัญหาแบบนี้ แม่แบบไหนกัน (ไม่ให้ยุ่งเงิน ก็ควรจัดการให้ดี) ไม่ใช่แบบนี้

นี่แค่1ในไม่กี่เรื่องนะ….เอาจริงเมื่อวานนี่ก็ถือว่าเป็นลูกเลวแหละ มันไม่ไหวละ เรื่องเล็กๆ แต่ล้ำเส้นไปมา จนระเบิดทั้งคู่ นี่ได้ข่าว เผาพริกเผาเกลือแช่งกูจ้ะ เผาจริงๆนะ ตลกป่ะ

จำได้มั้ย ก่อนนี้ผมเคยบอกว่า ผมเป็นซึมเศร้า ไปหาหมอ ซึ่งแตงกวาก็เป็นนะ นั่นก็อยากตาย ลองถามกันจริงๆดิ ว่าเพราะใคร มีแม่ที่ไหน ใช้คำพูด คำหยาบต่างๆ จนลูกเป็นซึมเศร้า กัน2คนรวดบ้าง…

เอาจริง ตอนนี้ผมแค่รักตัวเองมากขึ้นครับ ผมมีผู้หญิงที่รับเค้ามาแล้ว ต้องดูแล ผมมีเด็กผู้หญิงที่เกิดมาให้ผมดูแล และผมอยากเอาเค้าออกจาก ความToxic แบบนีั ไม่อยากให้โตมาเจอแบบนี้

ลองดูเองแล้วกันว่า โพสต์ของผม กับของเค้า คนในบ้าน ญาติๆ สนใจใครมากกว่า เข้าใจใครมากกว่า เพราะทุกคนรู้ไงว่า เป็นคนToxic ยังไง โดยที่เค้าไม่เคยรู้ตัวเอง

นี่จะเป็นโพสต์สุดท้ายที่พูดถึง จะไม่มีอีก บ้านเดี๋ยวย้ายออกให้ มีอะไรอยากทำร้าย ทำลาย ก็จัดมา เพราะรู้ว่าทำแน่ๆ ตามนิสัย เดี๋ยวอะไรเข้าที่ แม้แต่นามสกุล ผมก็คืนให้ครับ สงสารแต่คนที่ยังต้องอยู่….”

ด้านคนกลางอย่างคุณป๋า โน้ต เชิญยิ้ม ก็ได้โพสต์รูปตัวเองยืนเหม่อพร้อมแคปชั่นที่บอกว่าตนทำดีที่สุดแล้ว “ชีวิตนี้ผมทำเต็มที่แล้วครับ...เวลาที่เหลือก็คงทำเต็มที่เหมือนเดิมแหละครับ นี่คือความคิดของหนุ่มใหญ่ วัย 71 ปี ( ที่ไม่สามารถซื้อของเงินผ่อนได้แล้ว เพราะเขากลัวตายก่อนผ่อนหมด )”