'คิมม่อน' เจอวิกฤตหนัก สูญเสียคุณพ่อ-งานหด

ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจังหวะชีวิตของ คิมม่อน-วโรดม เข็มมณฑา จะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่หดหายจนถูกมองว่าตกอับ แถมยังต้องมาสูญเสียเสาหลักของครอบครัวอย่างคุณพ่อไปอย่างกระทันหัน โดย คิมม่อน ได้เปิดใจว่าปีที่ผ่านมายอมรัยว่างานแสดงไม่มีเลย ซึ่งหลายคนก็ประสบปัญหาเดียวกัน แต่มาปีนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นแล้ว

“ต้องบอกว่าปีที่ผ่านมางานแสดงไม่มีเลย ตกใจมาก ยอมรับว่าช่วงนั้นเกิดอาการวิตกกังวลมาก ไม่มีใครจ้างเราทำงานแล้วเหรอ แต่พอไปถามเพื่อนๆ ในวงการว่ามีงานกันบ้างมั้ย ทุกคนก็ตอบว่าไม่ค่อยมีงานเหมือนกัน เหมือนว่าปีที่แล้วงานในวงการจะซบเซา คนในวงการทุกคนได้รับผลกระทบหมด ผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะมันไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ไม่มีงาน แต่ตอนนั้นผมก็ยังโชคดีที่มีงานดีเจ ที่คลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นงานประจำ ได้เงินเดือนแน่นอน พอมาปีนี้ผมว่าทุกอย่างมันเริ่มโอเคขึ้น ตอนนี้ผมมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง เลี้ยงรุ่น จะเข้าโรงฉายในวันที่ 18 กันยายนนี้ เล่นคู่กับ คอปเตอร์ (ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี) เล่นเป็นคู่จิ้นกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน ก็รู้สึกใจชื่นขื้นที่งานเริ่มกลับมา เพร่ะช่วงก่อนหน้านี้มันเงียบจริงๆ ผมหายหน้าไปเลยจนมีคนพูดว่าผมตกอับหรือเปล่า เอาจริงๆ กับคำคนผมเฉยๆ นะ ยอมรับว่างานแสดงมันหดหายไปจริงๆ แต่ผมยังมีงานดีเจ ไม่ได้ว่างงานซะทีเดียว รายได้อาจลดลงแต่ก็ไม่ถึงขึ้นเดือดร้อน ปกติผมเป็นคนที่ไม่ได้ใช้ของแพงหรือพวกแบรนด์เนม เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย ทุกวันนี้ผมมีค่าใช้จ่ายวันละประมาณ 2-3 ร้อยบาทเอง

ส่วนเรื่องครอบครัวยอมรับครับว่าเราเพิ่งผ่านเหตุการณ์สุดช็อก เพราะคุณพ่อเสีย คุณพ่อจากไปแบบกะทันหัน มันยังไม่ได้เตรียมใจอะไรเลย แล้วการสูญเสียคุณพ่อในครั้งนี้ก็เป็นการสูญเสียครั้งแรกในชีวิตผมเลยรู้สึกเศร้ามาก มันทำให้เรารุ้สึกเลยว่าเวลาที่เหลืออยู่เราต้องดูแลคุณแม่ให้ดีที่สุด ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แม่พักอยู่พระประแดง ส่วนตัวผมอยู่ในกรุงเทพฯ ช่วงนี้ผมก็ต้องเดินทางกลับไปอยู่กับแม่บ่อยๆ แต่ยังโชคดีที่คุณแม่ยังมีน้องชายคอยช่วยดูแลด้วย อยากให้ทุกคนดูแลคุณพ่อคุณแม่ให้ดีที่สุด ดูแลท่านให้มีความสุขในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่าเราดูแลพ่อแม่ของเราดีหรือยัง สำหรับผมที่ผ่านมาผมดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี แต่พอเสียคุณพ่อไปอย่างกะทันหัน มันก็รู้สึกเสียใจมากๆ ยิ่งทำให้ผมต้องกลับมาดูแลครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น"