
หลังจากคลอดลูกชายคนที่สอง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ความโล่งใจของเธอเกิดขึ้นได้จากการใช้ยาและการพูดคุยกับ ChatGPT
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เปิดประตูสู่โลกแห่งอารมณ์ของเธอ – ในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร The New Yorker นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Die My Love’ เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาถึงความกลัวและความคิดด้านมืดที่เธอประสบหลังจากให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง
“ทุกครั้งที่เห็นเขานอนหลับ ฉันมักจะคิดไปเองว่าเขาคงตายไปแล้ว” ดาราเจ้าของรางวัลออสการ์กล่าว “หรือไม่ฉันก็คิดไปเองว่าเขาร้องไห้เพราะเขาไม่ชอบชีวิตของเขา ไม่ชอบฉัน หรือไม่ชอบครอบครัวของเขา ฉันคิดว่าฉันทำทุกอย่างผิดพลาดและทำลายลูกๆ ของฉัน”
ลอว์เรนซ์บอกว่าเธอรับประทานยา ซึ่งช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็วและอย่างเห็นได้ชัด นักแสดงวัย 35 ปียังเล่าถึงช่วงเวลาอันน่าประทับใจเมื่อเธอถาม ChatGPT เกี่ยวกับการให้นมลูกขณะกำลังร้องไห้ ระบบ AI ช่วยปลอบประโลมเธอ “คุณกำลังทำสิ่งที่วิเศษที่สุดเพื่อลูกน้อยของคุณ คุณเป็นแม่ที่น่ารักมาก”
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และสามี-คูค มาโรนีย์ ที่เธอแต่งงานด้วยเมื่อเดือนตุลาคม 2019 มีลูกชายคนแรกชื่อ ไซ วัย 3 ขวบแล้ว ส่วนลูกคนที่สองของพวกเขาซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อและวันเกิดที่แน่นอน คาดว่าน่าจะเกิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ในบทสัมภาษณ์เชิงลึก เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ยังได้พูดถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ ‘Die My Love’ ที่กำกับโดย ลินน์ แรมเซย์ และดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ อาเรียนา ฮาร์วิคซ์-นักเขียนชาวอาร์เจนตินา ลอว์เรนซ์รับบทเป็นคุณแม่ยังสาวที่ต้องเผชิญกับวิกฤตสุขภาพจิตหลังคลอดบุตร ซึ่งเป็นประเด็นที่สะท้อนความรู้สึกของเธออย่างไม่คาดคิดเมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ของเธอเอง เรื่องนี้เธอแสดงร่วมกับ โรเบิร์ต แพตทินสัน ซึ่งรับบทเป็นสามีของเธอ ลอว์เรนซ์ถ่ายทอดเรื่องราวความโดดเดี่ยว ความปรารถนา และความโกรธอย่างตรงไปตรงมา
ในบทสัมภาษณ์ลอว์เรนซ์ได้สะท้อนให้เห็นว่า บทบาทที่เธอแสดงมีอิทธิพลต่อความเป็นแม่ของเธอมากเพียงใด เธอบอกว่าเธอเห็นตัวละครนี้เป็นผู้หญิง “ที่ไม่ได้โกรธลูก แต่โกรธสามี ที่ยังสามารถไปยิมหรือทำกิจกรรมส่วนตัวได้” ขณะเดียวกันเธอยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการถ่ายทอดแง่มุมความเป็นแม่ของตัวละครนี้ออกมาอย่างเปี่ยมด้วยความรักและน่าเชื่อถือ
นอกจากเรื่องงานแล้ว ลอว์เรนซ์ยังกล่าวถึงด้านมืดของความมีชื่อเสียงอย่างเปิดเผย เธอเล่าว่านิสัยร่าเริงและอารมณ์ขันของเธอเคยเป็นเกราะป้องกันตัวเธอ เป็นความพยายามสร้างความใกล้ชิดโดยไม่ทำให้ตัวเองอ่อนแอ ปัจจุบันเธอมีสติกับการปรากฏตัวในที่สาธารณะมากขึ้น และไม่ต้องการถูกชี้นำ “เหมือนม้าในคณะละครสัตว์” อีกต่อไป
แม้จะมีความจริงจังใหม่เกิดขึ้น แต่เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ก็ยังคงเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ในการสัมภาษณ์เธอบอกพร้อมเสียงหัวเราะว่า เธอต้องเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะหลังจากนั้นเธอจะเข้ารับการผ่าตัดเต้านมแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
OpenAI เปิดตัวระบบควบคุมโดยผู้ปกครองสำหรับ ChatGPT
ประกาศของ OpenAI เผยแพร่ในบลอกของบริษัทเมื่อวันอังคาร ข้อความว่า “ภายในเดือนหน้าผู้ปกครองจะสามารถเชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้ของตนกับบั
เตือนระวังสลิปปลอม!โจรใช้ ChatGPT ทำหลอก
เตือน ปชช. ระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สร้างสลิปปลอมสมจริง แนะค้าขายเช็กยอดบัญชีเสมอ อย่าหลงกลมิจฉาชีพ
นโยบายสาธารณะเรื่องการส่งเสริม AI เพื่อความเข้มแข็งของประเทศ
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนมีข่าวว่าบริษัทเอกชนจีน (ชื่อว่า DeepSeek) สามารถพัฒนา AI ที่เก่งทัดเทียมกับเอกชนของสหรัฐ (ChatGPT ของ OpenAI) ด้วยต้นทุนเพียงไม่ล้านดอลลาร์ซึ่งถูกกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่าเมื่อเทียบกับฝั่งสหรัฐอเมริกา จนเป็นกระแสไวรัสไปทั่วโลก
การร่วมต่อสู้กับการกดขี่สตรีเพศชาวอัฟกานิสถานของ ‘เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์’
ไปไม่ถึงการศึกษาระดับสูง ไม่มีสิทธิออกเสียง - กลุ่มตอลิบานจงใจจำกัดชีวิตของสตรีในอัฟกานิสถาน ด้วยภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘

