'ประยุทธ์' หารือทูตเช็กตอกย้ำสัมพันธ์สองประเทศ

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กฯ ผลักดันความร่วมมือต่อเนื่อง เชื่อมั่นไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในอาเซียน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

18 พ.ค.2565 - นายมาเร็ก ลิบชีตซกี (Mr. Marek Libřický) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสาระสำคัญของการหารือว่า นายกฯ ขอบคุณเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็ก ที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ดำรงตำแหน่ง เชื่อมั่นว่าประสบการณ์ที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กได้รับตลอดการทำงานที่ประเทศไทยจะช่วยสานต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปี 2567 จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ จึงหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ได้กล่าวยินดีที่ได้มีโอกาสต้อนรับและพบหารือกับนายอันเดรย์ บาบิช อดีตนายกฯ สาธารณรัฐเช็ก เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นการเยือนระดับนายกฯ ครั้งแรก โดยหวังว่าจะได้เห็นการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับเพิ่มมากขึ้นต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กได้ขอบคุณความร่วมมือและการสนับสนุนในทุกระดับทั้งจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่สาธารณรัฐเช็กให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านการค้าการลงทุน ไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการลงทุนที่สำคัญในอาเซียน พร้อมชื่นชมการทำงานของรัฐบาลในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 โดยเชื่อมั่นว่า ภายหลังสถานการณ์คลี่คลาย ทั้งสองประเทศจะสานต่อการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันความสัมพันธ์และความร่วมมือในอนาคต

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างกัน ดังนี้ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน นายกฯ ยินดีที่การค้าระหว่างกันในปี 2564 ที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึงกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเช็กถือเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยปัจจุบันมีธุรกิจไทยลงทุนในเช็ก ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กเห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังมีช่องทางที่จะขยายการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนะถึงการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนด้วยการใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เช่นเดียวกับแผน European Green Deal (EDC) ของสหภาพยุโรป เพื่อสร้างการเจริญเติบทางเศรษฐกิจที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นายธนกร กล่าวว่า ด้านการท่องเที่ยวนายกฯ ยินดีที่ทั้งสองประเทศต่างเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมระหว่างกัน ชื่นชมเช็กที่มีภูมิประเทศที่สวยงาม โดยเห็นว่าในอนาคตควรมีแผนพัฒนาแลกเปลี่ยนกลุ่มนักท่องเที่ยวระหว่างกัน เช่น การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ มีการเดินทางท่องเที่ยวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและบริการที่มีคุณภาพ โดยรัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กฯ คาดหวังว่าภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จะมีการเส้นทางบินตรงกรุงเทพมหานคร-กรุงปราก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในอนาคต

นายธนกร กล่าวว่า ด้านการทหารทั้งสองฝ่ายยินดีที่กระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศมีการประสานงานและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด โดยนายกฯ รียินดีที่ในเดือนตุลาคมปีนี้ ฝ่ายเช็กได้เชิญเข้าร่วมงาน Future Forces Forum 2022 ซึ่งจะมีผู้แทนไทยเข้าร่วม ด้านความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคี นายกรัฐมนตรีหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเช็ก (Joint Commission on Economic Cooperation: JEC) ครั้งที่ 3 เพื่อเป็นโอกาสในการหารือแนวทางที่มีอยู่เดิม และความร่วมมือในสาขาใหม่ อาทิ สาธารณสุข Startup การจัดการสิ่งแวดล้อม และการทูตอวกาศ ขณะที่ด้านความร่วมมือพหุภาคี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็ก ยืนยันว่า เช็กจะให้การสนับสนุนไทยในการฟื้นการเจรจา FTA ไทย-EU และการลงนามความตกลง Thailand-EU PCA และพร้อมให้การสนับสนุนไทยในกรอบ EU ต่อไป

โอกาสนี้ นายกฯ ยินดีที่เช็กจะดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีสหภาพยุโรป ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2565 รวมทั้งยินดีต่อการประกาศยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของ EU ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อผลักดันให้ EU และอาเซียนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

'เศรษฐา' ต้อนรับนายกฯ กีวีเยือนไทยอย่างเป็นทางการ

นายกฯ หารือทวิภาคี นายกฯ นิวซีแลนด์ ย้ำความสัมพันธ์ไทย - นิวซีแลนด์ เกือบ 7 ทศวรรษ เดินหน้าความร่วมมือด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว ยกระดับความสัมพันธ์

'ไทย-นิวซีแลนด์' หารือชื่นมื่นดันปี 2569 เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์!

ไทย-นิวซีแลนด์ ลงนามความตกลง 2 ฉบับ ยกระดับความร่วมมือรอบด้าน โดยเฉพาะความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ในระดับประชาชน เดินหน้าสู่การเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ในปี 2569