นายกฯ หารือทูตไนจีเรีย สานต่อความร่วมมือ ผลักดันอุตสาหกรรมการเกษตรและสิ่งแวดล้อม

16 มิ.ย.2565 - เวลา 13.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายโอวีคูโรมา โอโรกุน เจบะฮ์ (H.E. Mr. Ovikuroma Orogun Djebah) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ สู่ประเทศไทย พร้อมยินดีที่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ไนจีเรีย จะมีวาระครบรอบ 60 ปี ในปีนี้ เชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ จะเป็นกําลังสําคัญในการขยายความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมฝากความระลึกถึง นายมูฮัมมาดู บูฮารี (H.E. Mr. Muhammadu Buhari) ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย รวมทั้งประชาชนชาวไนจีเรียด้วย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะมีพลวัตเพิ่มขึ้นผ่านความร่วมมือต่าง ๆ ในกรอบทวิภาคี โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ โดยสามารถประสานมายังรัฐบาลผ่านกระทรวงการต่างประเทศได้เสมอ เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศร่วมกัน

นายธนกร กล่าวว่าทเอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ ยินดีที่ได้รับตำแหน่งในประเทศไทย เชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะสานต่อความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม และพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไป โดยชื่นชมศักยภาพทางด้านการค้าการลงทุนและด้านวิชาการของไทย ซึ่งไนจีเรียพร้อมที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยได้เข้าทำธุรกิจในไนจีเรียเพิ่มขึ้น และสนใจที่จะแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ผ่านองค์ความรู้ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น ด้านการสาธารณสุข การเกษตรและสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างกันจะเกิดผลสำเร็จที่ไม่ใช่เพียงสองประเทศเท่านั้น แต่จะเป็นประโยชน์ที่สามารถเป็นต้นแบบให้แก่ประเทศอื่น ๆ ในโลกได้อีกด้วย

นายธนกร กล่าวว่า ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ได้แก่
ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือที่เป็นประโยชน์แก่ภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ โดยไนจีเรียมีการค้าการลงทุนที่มีศักยภาพในหลายประเภท เนื่องจากเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับหนึ่งของแอฟริกา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและไนจีเรียสามารถขยายช่องทางการค้าระหว่างกันได้มากขึ้น โดยไทยมีศักยภาพในการผลิตสินค้าต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าอาหาร และเครื่องอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพ จึงขอให้ใช้ประโยชน์จากกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่ ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมทั้งควรพิจารณาจัดทำความตกลงที่คั่งค้างระหว่างกันเพื่อเป็นกรอบในการส่งเสริมความสัมพันธ์ต่อไป ด้านเอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ ยินดีเป็นสื่อกลางในการสานต่อความร่วมมือ โดยในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 นี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ มีแผนจะจัดกิจกรรมงานสัมมนาด้านการค้าและการลงทุนไทย – ไนจีเรีย เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้าการลงทุนระหว่างกัน

นายธนกร กล่าวว่า ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรียินดีที่สถาบันปฐพีศาสตร์ไนจีเรีย (Nigeria Institute of Soil Science: NISS) ได้รับพระราชทานรางวัล King Bhumibol World Soil Say Award ในโอกาสวันดินโลก ปี 2565 ซึ่งเห็นพ้องว่าทั้งสองฝ่ายสามารถส่งเสริมความร่วมมือในเรื่องของการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ และการเกษตรให้มากขึ้น เนื่องจากไทยและไนจีเรียต่างก็เป็นประเทศเกษตรกรรมเช่นเดียวกัน การพัฒนาทรัพยากรดินจึงเป็นหัวใจสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศ รวมไปถึงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งไทยพร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับไนจีเรีย โดยเฉพาะการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้

นายธนกร กล่าวว่า ด้านวิชาการ เอกอัครราชทูตไนจีเรียฯ ขอบคุณการสนับสนุนของไทยผ่านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและทุนการศึกษา ทุนฝึกอบรมต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งจะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปต่อยอดและพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ ต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมส่งเสริมการให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าเมื่อทุกภาคส่วนมีการบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกัน จะสามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เซลส์นิด' แจงสภาสูง ขยันทัวร์นอกเหตุจำเป็น เมินตอบปม 'ทักษิณ'

'เศรษฐา' ปัดแก้ตัวงบไม่มางานไม่เดิน เคลมราคายางพุ่งผลงานรัฐบาล ชี้ดึงต่างชาติลงทุนล้านล้านบาท ใช้เวลามากกว่า 7 เดือน แถลงความก้าวหน้าทัวร์นอก 26 มี.ค.