กมธ.งบ 66 ถกปัญหาคนไทยไปทำงานเกาหลี พบเป็น 'ผีน้อย' 1.4 แสนคน

กมธ.งบฯปี 66 ถกงบ “สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน” ด้าน​ โฆษกกมธ. ชี้คนไทยหนีออกนอกประเทศเป็น “ผีน้อย” มากกว่าแสนคน เผย แรงงานไทยทั่วโลกส่งเงินเข้าประเทศกว่า ปีละ 2 แสนล้านบาท

20 ก.ค.2565 - ที่รัฐสภา นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 แถลงว่า กมธ.งบประมาณฯปี 2566 ใช้เวลาในการพิจารณางบประมาณปี 2566 มาแล้วทั้งหมด 27 วัน รวม 245 ชั่วโมง ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว รวม 16 กระทรวง 22 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 59 โดยในการพิจารณางบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน งบประมาณจำนวน 1,019,703,300 บาท

นายสัณหพจน์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับ ปัญหาแรงงานที่เดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ อย่างผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า ผีน้อย ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ไม่มีผู้ใดให้การ ช่วยเหลือได้ และมีกมธ.บางท่าน เสนอแนะว่า เนื่องจากมีคนไทยจำนวนมากที่ต้องการ หนีความยากจนและต้องการได้เงินเดือนที่สูงขึ้น จึงเดินทางไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายที่ประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกนายจ้างทำร้ายแต่ไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมหรือความช่วยเหลือจากผู้ใดได้ ทั้งนี้ หากหน่วยงานมีแนวทางในการช่วยเหลือแรงงานไทยให้สามารถเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมายในเกาหลีใต้ได้ เช่นเดียวกับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทํางานในประเทศไทย ซึ่งเมื่อตรวจพบแรงงานที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย จะมีการจดทะเบียนเพื่อให้งานสามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามหมาย

นายสัณหพจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันมีคนไทยไปทำงานผิดกฎหมาย ประเทศเกาหลีใต้จำนวน 140,000 คน และมีคนไทยที่เดินทางไปทำงานอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย จํานวนประมาณ 30,000 คน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประเทศไทยได้หารือ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของประเทศเกาหลีได้แล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้คนไทยที่ไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย ให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้มีการฝากให้สำนักงานแรงงานในประเทศเกาหลีใต้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ แรงงานไทย เดินทางไปทำงานต่างประเทศทั่วโลกส่งเงินกลับเข้ามาในประเทศไทย ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท

โฆษกกมธ . กล่าวว่า นอกจากนี้ ในเรื่องของการไปทำงานต่างประเทศของแรงงานไทย มี กมธ.บางท่าน ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ประเทศซาอุดิอาระเบีย และประเทศสหรัฐอเมริกา มีความต้องการแรงงานที่เกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก ดังนั้น หน่วยงานจึงควรมีแผนเพิ่มบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ในส่วนของมหาวิทยาลัย ที่ผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุข และพยาบาลวิชาชีพ เพราะเป็นสาขาที่ขาดแคลน ทั้งในประเทศและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในต่างประเทศ เช่น ประเทศซาอุดิอาระเบียที่มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และต้องการพยาบาลวิชาชีพเป็นจำนวนมากในขณะนี้ หรือประเทศสหรัฐอเมริกาที่อาชีพ พยาบาลมีค่าตอบแทนที่สูง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กป้อม' ลั่นพอแล้ว! เปิดบ้านป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่

'บิ๊กป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่นอายุ 80 ปี พอแล้ว ท่ามกลางปัญหาสุขภาพรุมเร้า ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ เตรียมวางมือการเมือง ขณะที่อดีตบิ๊กทหารตบเท้าร่วมรับพร

“รมว.ทส. มอบนโยบายขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เน้นรับมือไฟป่า ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และแก้ปัญหาช้างป่า

วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และมอบนโยบายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ณ ห้องประชุมอาคาร กปร.

'สามารถ' ยัน พปชร. ไม่ระส่ำ 'บิ๊กป้อม' ยังเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง

นายสามารถ แก้วมีชัย กรรมการบริหารพรรค พปชร.และว่าที่ผู้สมัครสส.เชียงราย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. ถูกจับตามองเกิดความสั่นคลอนและจะล่มสลาย หากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.วางมือทางการเมืองว่า

รองนายกฯ “สุชาติ” แจ้งเตือนประชาชน–สถานประกอบการ เฝ้าระวังอุบัติภัยสารเคมีช่วงปีใหม่ 2569

นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับหน่วยงานในสังกัด ทส.

“รองนายกฯ สุชาติ สั่ง คพ. จับตาลักลอบทิ้งสารเคมี 24 ชม. รุกสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมฉะเชิงเทรา ตรวจพบต้องสอบทันที”

นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น