
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติสรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง น่าน ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย ชัยภูมิ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา
25 ก.ค.2565-เพจกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.สุโขทัย (122 มม.) จ.ชัยภูมิ (79 มม.) และ จ.ตราด (74 มม.) พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก- ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง น่าน ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย ชัยภูมิ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,574 ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,596 ล้าน ลบ.ม. (55%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง)
กอนช. ติดตามสถานการณน้ำหลังประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 21/2565 เฝ้าระวังพื้นที่น้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักและหนักมาก บริเวณลุ่มน้ำน่านและลำน้ำสาขา รวมถึงแม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำป่าสัก และจากการคาดการณ์โดยกรมชลประทาน (ชป.) ในวันที่ 27 ก.ค. 65 ที่สถานี C.2 อ.เมืองจ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 900-1,000 ลบ.ม./วินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ที่สถานี C.19 มีปริมาณ 150 ลบ.ม./วินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณระหว่าง 1,050-1,150 ลบ.ม./วินาที ชป. มีความจำเป็น ต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 850-1,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.60-0.80 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผงจ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และบริเวณแม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือในพื้นที่ 4 จังหวัด (พิษณุโลก พิจิตร ลำปาง และอุตรดิตถ์) 6 ลุ่มน้ำ หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมอย่างทันท่วงที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สทนช. ยันไม่กังวลสถานการณ์น้ำ ชี้ 2 เขื่อนใหญ่ยังเหลือพื้นที่เก็บได้มากกว่าปี 54
เลขาฯสทนช. เผยปรับระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์-ภูมิพล ตามสถานการณ์ รับน้ำต่ำกว่าปี 54 ไม่น่าห่วง แต่ กทม.พื้นที่นอกคันกั้นน้ำต้องเตรียมตัว
กรมชลประทาน อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคั้นกันน้ำท้ายเขื่อนน่าห่วง
บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด
รัฐบาลจัด 'Mobile War Room' จับตาน้ำท่วมเรียลไทม์ นำร่อง 'อยุธยา'
รัฐบาลจัด Mobile War Room รถเฝ้าระวังน้ำท่วมสนับสนุนงานในพื้นที่เสี่ยง นำร่อง จ.อยุธยา รู้ก่อน ปลอดภัยก่อน ลดความเสียหายให้ประชาชนได้
“รมว.นฤมล“สั่งติดตามสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝน พร้อมจัดการอ่างเก็บน้ำให้เก็บน้ำฝนไว้ใช้ฤดูแล้งหน้า มั่นใจ แผนปฏิบัติการในลุ่มน้ำสำคัญ รับมือปริมาณฝนได้
ศ.ดร.นฤมล ภิณโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.)กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูฝน 2568 ว่า ตนได้มอบหมายให้กรมชลประทาน ดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ตามมติของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) อย่างเคร่งครัด
9 ชุมชนในหาดใหญ่ขึ้นธงเหลืองแล้ว
สถานน้ำในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ขณะนี้มีการขึ้นธงเหลืองแล้ว 9 ชุมชน แต่ระดับน้ำคลองอู่ตะเภาและคลองภูมินาถดำริยังปลอดภัย
ศปช. อัปเดตสถานการณ์น้ำทั่วไทย ภาคกลางแนวโน้มดี คืบหน้าเยียวยา-ฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ยังตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงนี้


