
'ธนกร' โอ่ผลงาน 8 ปีลุงตู่ด้านโครงสร้างพื้นฐานคู่ขนานสาธารณสุข เน้นสร้างรากฐานเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศระยาว
27 ก.ค.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตลอดเวลา 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมบริหารประเทศเกิดผลเป็นรูปธรรมจริง มีประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ บ้านเมือง ทั้งปัจจุบันและจะส่งผลยาวนานถึงอนาคต ซึ่งรัฐบาลได้เน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทุกด้านควบคู่กับการวางระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็ง ซึ่งผลงานที่ผ่านมาด้านโครงสร้างพื้นฐานมีความสำเร็จ ได้แก่ 1.ทางบก เช่น สร้างและพัฒนาถนนทั้งถนนทางหลวงและถนนชนบท ครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทย สร้างทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเกือบ 10 เส้นทาง ตลอดจนการขยายถนนทางหลวงหลัก เป็นต้น
นายธนกร กล่าวว่า 2. ทางราง เช่น ในพื้นที่ กทม. ได้เชื่อมต่อรถไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง รวมทั้งบริหารงบประมาณ ทำสัญญาก่อสร้างทางรถไฟเพื่อต่อเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อช่องทางการคมนาคมระหว่างประเทศ และเพื่อเพิ่มพูนการส่งออกของผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชนคนไทย อีกทั้งยังสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกสู่โคราช ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไม่ช้านี้ และจะสร้างต่อเชื่อมไปอีกเพื่อเปิดประตูเชื่อมต่อ และการส่งเสริมความเจริญในทุกภาคอุตสาหกรรม เพื่อประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานและสามารถสร้างรายได้จากความเจริญที่มากับการคมนาคมที่สะดวกขึ้น
นายธนกร กล่าวว่า 3. ทางอากาศ เช่น การขยายสนามบินเพื่อรองรับการขนส่งทางอากาศและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยสำหรับปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นการสร้างรายได้หลักของหลายอุตสาหกรรมของประเทศ และเป็นรายได้ที่เชื่อมต่อไปถึงระดับฐานรากของประเทศ รวมถึงการทำโครงการต่อเชื่อม 3 สนามบินเข้าด้วยกัน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เพื่อความสะดวกของผู้เดินทางและเพื่ออนาคตทางการขนส่งทางอากาศที่ยั่งยืนของไทย
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ นายกฯ และรัฐบาลได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ ในการบริหารงานด้านสาธารณสุขในการแก้ปัญหาและดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องให้ดีที่สุด และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมาตรการต่าง ๆ ควบคู่กับการดูแลด้านสุขภาพประชาชนโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน และหาแนวทางทำให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงักอีก โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุขนั้น รัฐบาลมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จนส่งผลให้ไทยติดอันดับต้น ๆ ที่มีการบริการและดูแลประชาชนอย่างดียิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และบุคลากรที่เป็นเลิศทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสม. ทั่วประเทศ
“นายกฯ เน้นย้ำการวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานของประเทศควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขให้ประชาชนมีสุขภาพดี ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของประเทศและประชาชนในอนาคต การดำเนินงานที่ผ่านมาของรัฐบาลถือว่าได้สร้างรากฐานความมั่นคงในหลายๆด้าน เชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนสานต่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนกับประเทศได้ต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ
'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ
ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย
นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย หลังสื่อถาม 12 ธ.ค.ไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.
'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!
นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด
นายกฯ บอกให้ทุกคนระบายแต่ย้ำเชื่อตัวเลขหมอ-สธ.
นายกฯ ชี้ตัวเลขผู้เสียชีวิต เชื่อแพทย์ - สถาบันนิติเวช บอก ปกปิดไม่ได้ หลังสะพัดมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยหลักพัน บอกปล่อยให้ระบายแล้วจบ ทำงานต่อ หลังมีคลิปชาดา ไล่นายกฯแป้น
นายกฯ มอบนโยบาย กอ.รมน.เร่งปราบภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์
'นายกฯ' มอบนโยบาย 'กอ.รมน.' กำหนดทิศทางปี 69 มุ่ง 'ยั่งยืน-ทันสมัย' เร่งปราบปรามภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์ ชูงานเชิงรุกร่วมมือชุมชน เข้าถึงเป็นที่พึ่งประชาชน


