10 ต.ค.2565 - เมื่อเวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้" ฉบับที่ 5 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 10–11 ตุลาคม 2565
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิลดลง รวมถึงดูแลสุขภาพไว้ด้วย สำหรับร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลางทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 10–11 ตุลาคม 2565
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 10 ตุลาคม 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 11 ตุลาคม 2565
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงวันที่ 10–14 ตุลาคม 2565
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ดังนี้ ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 11 – 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11 – 16 ต.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนฝ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 14 – 15 ต.ค. 65 กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11 – 13 และ 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
และในช่วงวันที่ 14 – 15 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11 – 13 และ 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
โดยในช่วงวันที่ 14 – 15 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตลอดช่วง
ในวันที่ 10 - 11 ต.ค. 65 ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 16 ต.ค. 65 ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 11-16 ต.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 10 - 11 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด 'พายุฤดูร้อน' ถล่ม 26-29 มี.ค.
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
วันนี้อากาศร้อนโดยทั่วไปจนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่!
กรมอุตุฯ เผยวันนี้ทั่วไปอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนภาคอีสานตอนล่าง-กลาง-ตะวันออกอาจเจอฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
ทั่วไทยอากาศร้อนและฟ้าหลัวตอนกลางวันแต่มีฝนประมาณ 10%ของพื้นที่
กรมอุตุฯ คาดวันนี้เหนือ-อีสานอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 40 องศา ซ้ำร้ายมีฝนฟ้าคะนองและเจอลูกเห็บตก แต่มีเพียง 10%ของพื้นที่ ส่วนเมืองกรุงฟ้าหลัวและมีฝนตก 10%เช่นกัน
กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า เตือนระวังพายุฤดูร้อน 26-27 มี.ค.
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระบุว่า ในช่วงวันที่ 21-25 มี.ค. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉี
ไทยตอนบนร้อน! ระวังลูกเห็บตก กทม.โล่ง PM2.5 น้อย เพราะมีลม
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ลั
พายุฤดูร้อนถล่ม 20-22 มี.ค. ฝนฟ้าคะนอง ลมแรงลูกเห็บตก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย