จับตา 'จุรินทร์-ดอน' นำถกรัฐมนตรีเอเปก

มัลลิกา
'มัลลิกา' เผย 'จุรินทร์' ผนึก 'ดอน' นำประชุมรัฐมนตรีเอเปก ก่อนชู้ตบอล ให้นายกฯ-ผู้นำโลกรวม 21 คน 18-19 พ.ย. พร้อมชูศักยภาพประเทศไทยในเวทีโลก

16 พ.ย.2565 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าไม่อยากเห็นการด้อยค่าผู้นำประเทศในเวทีเอเปคและปิดโอกาสทองของไทย ดังนั้นในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศมีความเป็นห่วงว่าเวทีระดับโลกที่ปรากฏชื่อประเทศไทยบนแผนที่โลกครั้งนี้ จะถูกทำลายเพียงคนไม่กี่คนนั้นย่อมมิได้ จึงอยากให้รัฐบาลทำความเข้าใจคนเหล่านั้นก่อนเวทีสุดยอดผู้นำจะเริ่ม

นางมัลลิกา กล่าวว่า รัฐมนตรีเอเปกของประเทศไทยคือรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายดอน ปรมัตถ์วินัย ส่วนผู้นำประเทศไทย คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี และก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับชาติอื่นนั้น บทบาทของรัฐมนตรีเอเปกสองคนคือนายจุรินทร์และนายดอนจะต้องทำหน้าที่จัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปก 21 เขตเศรษฐกิจในวันที่ 17 พ.ย. จากนั้นผู้นำจะประชุมกันวันที่ 18 - 19 พ.ย.โดยสาระสำคัญของภารกิจวันที่ 17 คือ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายจุรินทร์ จะเป็นประธานร่วมกับรองนายกฯนายดอน

“ซึ่งจะนำประชุมในประเด็น เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล ซึ่งเป็น Theme ของการประชุม โดยจะนำไปสู่แถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีเอเปคหรือประธานก่อนที่ผู้นำจะมีการประชุมกัน โดยหน้าที่ตรงนี้ทั้ง 2 คนจะเป็นผู้กุมบังเหียนการหารือ เจรจา หาข้อยุติ ตกลง ร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและมุ่งสู่เป้าหมายขยายการค้าขายระหว่างกันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะรองรับสถานการณ์หลังโควิด-19 ซึ่งสาระตรงนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและศักยภาพรวมทั้งการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนคนไทยและไม่ให้เสียเปรียบชาติใดในเวทีโลกโดยเปิดโอกาสให้ประเทศและประชาชนเชื่อมโลกผ่าน 21 เขตเศรษฐกิจนี้

โดยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศไทยกับเอเปกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่าการค้ารวม 315,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.31% ซึ่งคิดเป็น 69% ของการค้ารวมทั้งหมดของประเทศไทย โอกาสของประเทศไทยจะมีโอกาสของตลาดการค้าโดยประชากรรวมกัน 21 เขตเศรษฐกิจนี้คือ 2,900 ล้านคน หรือ 38% ของประชากรโลก ที่สำคัญประเทศไทยก็ขยายการส่งออกนำรายได้เข้าประเทศจากตลาดเหล่านี้มาเป็นจำนวนมากและเป็นที่ชื่นชมของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากรายได้จากการส่งออกกลายเป็นขาหลักในการช่วยประเทศชาติไว้ในช่วง 3 ปีกว่าที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้รองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ได้คอยแถลงข่าวทุกเดือนเกี่ยวกับผลความสำเร็จด้านการค้าและการส่งออกประเทศเราได้รับความชื่นชมและการตอบรับจากทั่วโลกเป็นอย่างดี

"ส่วนจีดีพีของเขตเศรษฐกิจเอเปกมีรวมกันทั้งสิ้น 52 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,900 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62% ของจีดีพีโลก และเมื่อเรานำประเทศมาอยู่ในจุดนี้ที่ประชาคมโลกเขาหารือเจรจากันนี่คือเวทีที่จะนำประเทศเปิดตลาดการค้าเพื่อนำรายได้เข้ามาดูแลประชาชนภายในประเทศและเป็นโอกาสของทั้งคนตัวเล็กตัวน้อยโดยเฉพาะเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือการเพื่อโอกาสให้ไปถึงระดับฐานราก กลุ่มเปราะบางทุกเพศทุกวัยและถ้าเป็นผู้ประกอบการก็ตั้งแต่ระดับ เอ็มเอสเอ็มอี และ เอสเอ็มอี (MSME -SME ) ขึ้นไป นี่จึงเป็นโอกาสของประชาชน " นางมัลลิกา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ชูความยั่งยืน-การค้าการลงทุนที่เปิดกว้าง-ความเชื่อมโยง บนเวทีผู้นำเอเปก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกในรูปแบบ Retreat (APEC Economic Leaders’ Retreat (Session II)) หัวข้อ “Interconnectedness and Building

นักข่าวเทวดา เตือน 'เศรษฐา' เป็นผู้นำไทยไม่ใช่แฟนคลับ 'ไบเดน'

ประชาชนอยากเห็นนายกฯอธิบายการเจรจาอย่าง "เท่าทัน" มากกว่าออกอาการ "เหลือเชื่อ" แบบแฟนคลับวัยรุ่น คุณไม่ใช่ผู้บริหารบริษัทเอกชนแล้ว.