21 พ.ย.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก 2022 ได้ให้ความสำคัญและส่งเสริมประเด็นเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (The Free Trade Area of the Asia-Pacific : FTAAP)
ภายใต้หัวข้อหลักของการประชุม “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” ไทยมุ่งส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างสู่โอกาส เชื่อมโยงภูมิภาคอีกครั้งในทุกมิติ และนำพาเอเปกไปสู่การเจริญเติบโตที่สมดุล ครอบคลุม ในโอกาสนี้ ไทยผลักดันให้ทบทวนการหารือเรื่อง FTAAP และผลักดันการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งเอเปกได้จัดทำแผนงานต่อเนื่องหลายปีเพื่อสานต่อการหารือเรื่อง FTAAP ในบริบทของโลกยุคหลังโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับประเด็นการค้าการลงทุนใหม่ ๆ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เอเปกถือเป็นตลาดที่ประกอบด้วยสมาชิกที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ มีประชากรรวมกันกว่า 2,900 ล้านคน และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมกันกว่า 52 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 62 ของ GDP โลก โดยในปี 2564 การค้าระหว่างไทยกับสมาชิกเอเปก มีมูลค่ารวม 12.2 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 68.8 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย ซึ่งหากการเจรจา FTAAP บรรลุผลจะทำให้เอเปกเป็นเขตการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่มาก ช่วยขยายโอกาสและสร้างข้อได้เปรียบให้กับสินค้าจากสมาชิกเอเปก รวมถึงไทย ให้สามารถส่งออกไปตลาดที่เป็นคู่ค้าได้หลากหลายมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกเอเปกที่ยังไม่มีเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัน อาทิ ไทยกับสหรัฐอเมริกา หรือ ไทยกับเม็กซิโก หากจัดตั้ง FTAAP สำเร็จก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับคู่ค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น มีเครือข่ายและแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายที่จะสนับสนุนการลดต้นทุน สามารถช่วยอํานวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระหว่างสมาชิกเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีกฎระเบียบมาตรการทางการค้า และพิธีการทางศุลกากรที่สอดคล้องกัน ช่วยลดความยุ่งยากและซับซ้อน
“การรื้อฟื้นการหารือแนวคิดความตกลง FTAAP ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ไทยได้มุ่งผลักดันในการประชุมเอเปก 2022 ที่ผ่านมา ภายใต้ FTAAP ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการค้าในระดับภูมิภาคที่มีมาตรฐานสูงและครอบคลุม ซึ่งหนึ่งในผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากการประชุมครั้งนี้คือ แผนงานต่อเนื่องหลายปีเพื่อสานต่อการหารือเรื่อง FTAAP ในบริบทของโลกยุคหลังโควิด-19 ซึ่งตอบสนองต่อคำมั่นสัญญาของผู้นำในวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 และแผนปฏิบัติการ Aotearoa เพื่อเดินหน้างานตามวาระ FTAAP เพื่อเปิดโอกาสการค้าการลงทุน รวมทั้งส่งเสริมขีดความสามารถของเขตเศรษฐกิจในประเด็นการค้าการลงทุนใหม่ ๆ และลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างกัน ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์คือประชาชนทุกคนในภูมิภาค” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา
นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

