ครม. เห็นชอบผลประชุม รมต.เอเปก หนุนธุรกิจเอสเอ็มอีประยุกต์ใช้ BCG โมเดล

ครม.เห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเอเปก หนุนเอสเอ็มอีประยุกต์ใช้ BCG โมเดล เปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม รับมือตลาดที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป และการจัดหาเงินทุนและการปรับโครงสร้างหนี้

29 พ.ย.2565 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ว่าที่ประชุมครม. เห็นชอบรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเอเปค ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 9-10 กันยายน 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เสนอ โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีผู้เข้าร่วมจาก 20 เขตเศรษฐกิจ โดยที่ประชุมมีการหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใน 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1.การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) 2.การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม 3.การรับมือกับตลาดที่กาลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป 4.การจัดหาเงินทุนและการปรับโครงสร้างหนี้ และ 5.ประเด็นอื่นๆ โดยมีสาระสำคัญในการหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็นดังกล่าว ดังนี้1.การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) นั้น ญี่ปุ่นได้ส่งเสริมให้เกิด “ตลาดสินค้าสีเขียว” คือตลาดสำหรับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่รักษ์โลกหรือลดการใช้ทรัพยากรและพลังงาน เช่น ถุงผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเสนอให้ภูมิภาคเอเปคสร้างและพัฒนาตลาด “สินค้าสีเขียว” ให้แก่ SMEs และสิงคโปร์ส่งเสริมให้มีการพัฒนาการรับรองมาตรฐานสินค้าสีเขียวให้แก่ SMEs เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น2.การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม รัสเซียร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการเชื่อมโยงข้อมูลทางธุรกิจของผู้ประกอบการเพื่อให้ธนาคารเครือข่ายใช้เป็นข้อมูลปล่อยกู้และแบบรายการยื่นภาษีอัตโนมัติ และสามารถส่งเอกสารขอยื่นกู้ธนาคารไปยังธนาคารเครือข่ายได้ ส่วนเวียดนามมีการพัฒนาหน่วยบริการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลครบ 100 หน่วยงาน ภายในปี 2568 และผู้ประกอบการ 100,000 รายจะได้รับการอบรมและเข้าถึงบริการด้านการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล ในขณะที่อินโดนีเซียมีแผนดำเนินการส่งเสริมให้ SMEs เปลี่ยนผ่านสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการอย่างน้อย 30 ล้านรายภายในปี 2567 และเกาหลีใต้ได้ให้มีนโยบายนำร่องเพื่อช่วยเหลือด้านดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs)3.การรับมือกับตลาดที่กาลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป สหรัฐฯ มุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนโดยเฉพาะผู้ประกอบการสตรี โดยมีหลักสูตรการประเมินศักยภาพของผู้ประกอบการและการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งจัดให้มีการเข้าถึงแพลตฟอร์มในการโอนเงิน4. การจัดหาเงินทุนและการปรับโครงสร้างหนี้ แคนาดาได้จัดให้มีสินเชื่อโดยไม่หวังกำไรและกองทุนร่วมลงทุนให้ผู้ประกอบการสตรี ในขณะที่จีนจัดให้มีการค้ำประกันสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจสำหรับประเด็นสุดท้ายในเรื่องอื่นๆ นั้น มาเลเซียได้จัดกิจกรรม SME National Champion โดยคัดเลือกจากธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตทางรายได้สูง และรัฐบาลจะให้การสนับสนุนใน 3 มิติ คือ การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีสู่ 4.0 การปฏิรูปองค์การให้มีสมรรถนะสูง และการพัฒนากลยุทธ์การตลาดสู่สากล ส่วนจีนได้ยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของ SMEs มากกว่า 1,000 รายการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลหนุนยกระดับ ‘แตงโมเกาะสุกร’ สินค้า GI ตรัง สร้างรายได้ชุมชน 27 ล้านต่อปี

รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนสนับสนุนสินค้า GI ของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลผลิตจากภูมิปัญญาและทรัพยากรท้องถิ่นอันทรงคุณค่า การเลือกซื้อสินค้า GI เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน

‘ทักษิณ’ มั่นใจ กม.กาสิโน ผ่านฉลุย ฟุ้งเสียงรัฐบาลพอผลักดัน บอกพวกต้านระวังติดเตียง

เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เดิมพรรคประชาชนเชียร์เต็มที่ แต่เมื่อเป็นฝ่ายค้าน ตนก็ไม่แน่ใจว่าจะเชียร์หรือไม่เชียร์ แม้จะเชียร์หรือไม่เชียร์ แต่เสียงรัฐบาลก็พออยู่

ส้มส่งสัญญาณแดง 'อยู่ที่เงื่อนไข -สถานการณ์'

ณัฐพงษ์' ย้ำชัดเลือกตั้งสมัยหน้า หาก 'พท.' ยอมรับว่าทำผิดกับ ปชช. ก็อาจจับมือด้วย ออกตัวไม่ขอตั้งเงื่อนไขล่วงหน้า เหตุสถานการณ์เปลี่ยนได้ตลอด

รัฐบาลเปราะบาง ปชช.จับตาอุบัติเหตุการเมือง

ซูเปอร์โพล ชี้ผลสำรวจ ปชช.กังวลปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รวมทั้งเสถียรภาพรัฐบาลที่มีความเปราะบาง นอกจากนี้ยังห่วงเรื่องความแตกแยกและอุบัติเหตุทางการเมือง