เครือข่ายทวงคืนชายหาด ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ค้านสร้างกำแพงกันคลื่น ทำหาดทรายสูญ

ม็อบปิดถนนหน้าทำเนียบ ค้าน สร้างกำแพงกันคลื่น จี้ นายกฯ ยกเลิกมติครม. ลั่น ปักหลักค้างแรม รอผลเจรจา
 
7 ธ.ค.2565 - เมื่อเวลา 16.30 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก เครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาด และกลุ่ม "บีช ฟอร์ ไลฟ์" ซึ่งนำโดยนายเจกะพันธ์ พรหมมงคล หรือนายเรียง สีแก้ว คณะทำงานสภาประชาชนภาคใต้ และนายอภิศักดิ์ ทัศนีย์ ผู้ประสานงานกลุ่มบีช ฟอร์ ไลฟ์ ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้านไม่ให้มีการสร้างกำแพงกันคลื่นในทะเล โดยการชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวได้ตั้งแนวขวางถนน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตั้งแผงเหล็ก ปิดขวางตามแนวสะพาน ทำให้ปิดเส้นทางการจราจรหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่แยกพาณิชยการจนถึงแยกมิสกวัน ส่งผลให้การจราจรบริเวณถนนพิษณุโลกติดขัดอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเลิกงาน และกำลังเดินทางกลับบ้าน
 
ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวได้ยื่นขอติดตามเรื่องที่เคยยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ไปแล้วก่อนหน้านี้ และขอย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2534 ที่ให้อำนาจกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้สร้างกำแพงป้องกันชายฝั่ง 2.การสร้างกำแพงกันคลื่นต้องทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก่อนที่จะพิจารณาก่อสร้างกำแพงดังนั้น เพื่อให้เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วม และ 3.ขอให้กำหนดให้มีแผนฟื้นฟูชายหาดที่ได้รับความเสียหายจากกำแพงกันคลื่น  โดยมีนายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนลินี มหาขันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสาธิต สุทธิเสริม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการประสานมวลชนและองค์กรประชาชน เป็นตัวแทน รับเรื่องพร้อมพูดคุยเจรจากับแกนนำกลุ่มดังกล่าว
 
ขณะที่นายเจกะพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า  เครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาดเดินทางมาติดตามความคืบหน้า หลังจากที่ได้มายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 และได้มายื่นอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2565  สำหรับกำแพงกันคลื่นนี้เกิดขึ้นในหลายจังหวัดซึ่งเป็นชายฝั่งทั่วประเทศ ทั้งภาคตะวันออก เช่น จ.ระยอง ภาคใต้ เช่น ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจากการสร้างกำแพงดังกล่าวทำให้ชายหาดหายไปเป็นแนวยาว และส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่บางพื้นที่เกิดการกัดเซาะแบบชั่วคราว แต่การไปใช้โครงสร้างแข็งเป็นกำแพงกันคลื่นนั้น มันจะทำให้ไม่สมเหตุสมผล อาทิอ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผลเสียหายที่เกิดขึ้น จากการสร้างกำแพงดังกล่าวความยาว 2 กิโลเมตร ทำให้ชายหาดหายไปหมด นักท่องเที่ยวก็หายไปด้วย การท่องเที่ยวหายไปทันที ผิดกับพื้นที่บริเวณถัดจากนั้นไปประมาณ 1 กิโลเมตร มีชายหาด ทำให้นักท่องเที่ยว มีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผลเสียคือมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว การกระจายรายได้สู่ชุมชน และระบบนิเวศชายฝั่ง ได้รับผลกระทบไปทั้งหมด แต่หากมีพื้นที่ใดที่ถูกกัดเซาะ จะได้รับความเสียหายมาก ก็ขอให้พิจารณาสร้างกำแพงกันคลื่นตามความจำเป็น  ที่ผ่านมาพบว่าบางพื้นที่ไม่ได้เกิดการกัดเซาะ รุนแรง แค่กัดเซาะชั่วคราว แต่กลับไปใช้โครงสร้างชั่วโคตร วิธีการแก้ไขปัญหา เช่น การปักไม้ถ่ายเททรายให้เป็นเนินทราย เป็นมาตรการสากลที่ใช้กันอยู่ แต่บ้านเรากลับไม่ใช้วิธีนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมค้างแรม อยู่ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อรอผลการเจรจา กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะมีการประชุม ในเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานก.พ.เดิม ในวันพฤหัสที่ 8 ธันวาคมนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คปท.บุกกรมราชทัณฑ์ จี้นำ นช.ทักษิณ-ป่วยทิพย์ กลับมาลงโทษ

ที่กรมราชทัณฑ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และ กลุ่มกองทัพธรรม 150 คน นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล

เคาะนิรโทษกรรม นับคดีตั้งแต่ 1 ม.ค.48-ปัจจุบัน เรียกแกนนำม็อบถกหาเหตุจูงใจ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม กมธ. ว่า การประชุม กมธ. วันนี้ มีมติว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีการเชิญบุคคลที่ส่วนใหญ่มีบทบาท

นี่เพิ่งแค่เริ่มต้น! คปท. ลั่นไม่เคยคิดว่าแพ้ มั่นใจยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวถูกทาง

แกนนำ คปท.ลั่นไม่เคยคิดว่าแพ้จริงๆ  เรารู้ประมาณ ประเมินให้ออก เคลื่อนให้ถูก ธงชัด  ยุทธศาสตร์เรามันชัดก่อนชุมนุมแล้ว

‘พีมูฟ’ ลั่นไม่ย้ายพ้นรั้วทำเนียบฯ ขอปักหลักทวงคำตอบ 3 ปมใหญ่

‘พีมูฟ’ ยัน ไม่ย้ายพ้นรั้วทำเนียบ ตามประกาศบช.น.ปักหลัก ทวงคำตอบ หยุดบีบปชช.รับโฉนดชุมชน บี้บิ๊กป๊อดนั่งหน.โต๊ะถกปัญหา

นายกฯ ไม่รู้หลายม็อบบุกทำเนียบฯ 5 ก.พ. ยันพร้อมรับฟังทุกปัญหา

กลุ่มแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย, กลุ่มพีมูฟ และเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ต่างนัดมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 5 ก.พ.นี้