ทสท.ยื่นกฎหมายปลดปล่อยให้ประชาชนทำมาหากิน - รวมตัวจัดตั้ง SMEs มุ่งขจัดอุปสรรคขวางทำธุรกิจคนตัวเล็ก
15 ธ.ค.2565 - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ, นายไชยวัตน์ หาญสมวงศ์ รองหัวหน้าพรรค, ผู้แทนสมาคม SMEs และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ยื่นร่างกฎหมายการปลดปล่อยให้ประชาชนทำมาหากินและสร้างพลังให้ประชาชน ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
โดยนายโภคิน กล่าวว่า พรรค ทสท. ได้นำร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างกฎหมายพักการใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับใบอนุญาตประมาณ 1,300 ฉบับ ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชน และร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรวมตัวจัดตั้ง SMEs เพื่อให้พี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เสนอต่อประธานสภา ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรค ทสท.มีเป้าหมาย ในการดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เพราะพี่น้องยังขาดความมั่นคง ขาดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งมาจากความคิดและวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยม โดยมีรัฐราชการเป็นเครื่องมือ และเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ทำให้ประเทศต้องตกอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแบบเผด็จการและสืบทอดอำนาจ มีกฎหมายที่ล้าหลังกดทับและล้าหลัง เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของคนตัวเล็กมากมาย
พรรค ทสท. จึงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการปฏิวัติกฎหมายให้ตอบสนองคนทำมาหากินทุกระดับ โดยเฉพาะคนตัวเล็ก SMEs แต่จะทำได้สำเร็จต้องทำ 2 ขั้นตอน คือ 1.จะต้องมีการออกกฎหมาย 1 ฉบับเพื่อพักชั่วคราวหรือแขวนการบังคับใช้ในเรื่องการอนุมัติ อนุญาตและการลงโทษทั้งทางอาญาและทางปกครองออกประมาณ 3-5 ปีและ 2.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผู้ประกอบการ ผู้บริโภคร่วมกันแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับกระบวนการอนุมัติอนุญาตราว 1,300 ฉบับให้แล้วเสร็จภายใน 3-5 ปี คงเหลือเฉพาะกฎหมายที่จำเป็นราว 100 ฉบับเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถทำมาหากินได้อย่างคล่องตัว และเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น ทำให้ประเทศ เพิ่ม GDP และเก็บภาษีได้มากขึ้น
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการออกกฎหมายให้ SMEs มีการรวมตัวกัน 4 ระดับ เป็นนิติบุคคลได้ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อช่วยเหลือกัน 2.วางมาตรฐานการประกอบการ 3.เป็นปากเสียงไปยังภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะระบบราชการ และเป็นหูเป็นตา ป้องกันการ คอร์รัปชัน 4.สร้างขนาดของเศรษฐกิจ (Scale of Economy) และ 5.ดูแลตรวจสอบส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งทั้งหมดจะมีลักษณะคล้ายกับการมีสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมซึ่งมักจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ องค์ความรู้และตลาด
หัวหน้าพรรค ทสท. กล่าวต่อว่าพรรค ทสท.จะขจัดอุปสรรคที่ขวางกั้นการทำธุรกิจในทุกประการ เพื่อทำให้ประชาชนคนได้ระเบิดศักยภาพในการทำมาหากิน ทำธุรกิจได้คล่องตัว สะดวกรวดเร็วมาก ขจัดการคอรัปชั่นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถรีดไถได้ รวมถึงรัฐจะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น หลักเกณฑ์และกฎหมายต่างๆจะทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองภาวะที่คาดไม่ถึงต่างๆรวมถึงจะช่วยลดการผูกขาดจากทุนใหญ่และทุนพรรคพวก ความเป็นธรรมกระจายไปสู่ทุกคนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง และเป็นมาตรการ สำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เจริญ จรรย์โกมล' ยกครัวทิ้ง 'เพื่อไทย' ซบพรรคหญิงหน่อย!
'เจริญ จรรย์โกมล' อดีตรองประธานสภาควงลูกชาย พร้อมทีมงานทิ้งเพื่อไทยซบไทยสร้างไทย เตรียมจัดทีมชัยภูมิ ลุยกวาด ส.ส. หวังเป็นหัวหอกเจาะอีสานตอนล่าง
2 บิ๊กสายไหมหย่าศึก จับมือนำ 'ไทยสร้างไทย' สู้ศึกเลือกตั้ง
การเมืองในเขตสายไหมเป็นการเมืองที่ทุกเขตในกรุงเทพฯให้ความสนใจ เพราะการเลือกตั้งในเขตสายไห
'บิ๊กจิ๋ว' มาแล้ว! เชียร์พรรคหญิงหน่อย หนุน 'ชวลิต' ยึดเขต 4 นครพนม
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)
'หญิงหน่อย' ประกาศไม่แจกบัตรคนจน ลุย 'เงินด่วนประชาชน' ล้างหนี้นอกระบบ
'สุดารัตน์' ยันไม่แจกบัตรคนจน ประกาศดูแลคนรายได้น้อยด้วย 'กองทุนเครดิตประชาชน' ใช้เงินด่วนล้างหนี้นอกระบบ มั่นใจช่วยฟื้นเศรษฐกิจชุมชนหมุนเวียน ไม่สูญเปล่าเหมือนประชารัฐ-ประชานิยม
'หญิงหน่อย' ชูตั้ง 'กองทุนพลังหญิง-กองทุนแม่เลี้ยงเดี่ยว'
'สุดารัตน์' ได้ฤกษ์วันสตรีสากล ปลุกพลังหญิงเปลี่ยนแปลงประเทศ ชูนโยบายกองทุนพลังหญิง-กองทุนแม่เลี้ยงเดี่ยว พร้อมเพิ่มสัดส่วน ส.ส. หญิงในสภา
'สุดารัตน์' ถกทูตหญิง 7 ประเทศ หนุนเพิ่มนักการเมืองสตรีในสภา
'สุดารัตน์' หารือคณะเอกอัครราชทูตหญิง 7 ประเทศ ได้รับยกย่องนักการเมืองหญิงตัวอย่าง ส่งเสริมนโยบายเพิ่ม ส.ส. สตรีในสภา