'มัลลิกา' พร้อมผู้สนับสนุนรวม 21 ส.ส.ประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล เสนอแก้กฎหมายอาญา แทรกความผิดหนัก 'การกระทําผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์' กำหนดโทษแรง
22 ธ.ค.2565 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง 21 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล เข้าชื่อเสนอร่าง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ฉบับที่..พ.ศ. ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นประมวลกฎหมายอาญา โดยบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบการแก้ไข ซึ่งหลักการคือแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้
1.แก้ไขเพิ่มเติมการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรโดยเพิ่มบทบัญญัติของการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8(3) และมาตรา 8(7)
2.เพิ่มการกระทำความผิดอันมีลักษณะการโน้มน้าว จูงใจ ล่อลวง ส่งหรือส่งต่อซึ่งเรื่องทางเพศไม่เหมาะสม การข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ส่งต่อซึ่งข้อความ ภาพ เสียงที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เหมาะสมทางเพศ เป็นความผิดเกี่ยวกับเพศ (เพิ่มมาตรา 280/2มาตรา 284/1 มาตรา 284/2 มาตรา 284/3 มาตรา284/4 มาตรา 284/5 และมาตรา284/6
3.แก้ไขเพิ่มเติมโดยเพิ่มบทลงโทษของการกระทำความผิดอันมีลักษณะการโน้มน้าว จูงใจ ล่อลวง ส่งหรือส่งต่อซึ่งเรื่องทางเพศไม่เหมาะสม (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 285 มาตรา 285/1 และมาตรา 285/2
4.เพิ่มบทลงโทษการกระทำความผิดในการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือช่องทางโทรคมนาคม ซึ่งเพิ่มมาตรา 287/1 วรรคสาม และมาตรา 287/2 วรรคสาม
5.เพิ่มการกระทำความผิดซ้ำกรณีการเฝ้าดูหรือติดตามอันทำให้ผู้ถูกกระทำเกิดความรำคาญ และการกลั่นแกล้ง รังแก ระราน ข่มเหงต่อผู้อื่นผ่านอุปกรณ์โทรคมนาคมหรือระบบคอมพิวเตอร์ และเพิ่มบทลงโทษกรณีบุคคลที่เป็นผู้ดูแลระบบหรือเข้าถึงข้อมูลได้ คือ เพิ่มมาตรา 309/1 มาตรา 309/2 มาตรา 309/3 มาตรา 309/4 มาตรา 309/5 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 321 และเพิ่ม 321/2
"เหตุผลที่ต้องเสนอเพราะ เราห่วงใยเด็กและเยาวชนในยุคสมัยการขยายตัวของสื่อออนไลน์และการรู้เท่าไม่ทันคนที่ไม่ดีในสังคมโดยที่ปัจจุบันประมวลกฎหมายอาญาไม่ได้กำหนดให้ลักษณะการโน้มน้าว จูงใจ ล่อลวง ส่งหรือส่งต่อซึ่งเรื่องทางเพศไม่เหมาะสม การข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ส่งต่อซึ่งข้อความ ภาพ เสียงที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เหมาะสมทางเพศ เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศซึ่งเป็นความผิดทางอาญา รวมถึงไม่ได้กำหนด การกระทำความผิดซ้ำกรณีการเฝ้าดูหรือติดตามอันทำให้ผู้ถูกกระทำเกิดความรำคาญ และการกลั่นแกล้ง รังแก ระราน ข่มเหงต่อผู้อื่นผ่านอุปกรณ์โทรคมนาคมหรือระบบคอมพิวเตอร์เป็นการกระทำความผิดต่อเสรีภาพซึ่งเป็นความผิดทางอาญา จากสถานการณ์ปัจจุบันได้มีการกระทำดังกล่าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางจิตใจ ร่างกาย และทรัพย์สินต่อผู้ถูกกระทำ ดังนั้น สมควรกำหนดโทษทางอาญาเพื่อคุ้มครองผู้ถูกกระทำและป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้" นางมัลลิกา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการ มธ. คนแรกของอาเซียน คว้ารางวัล People of ACM
นักวิชาการ มธ. คนแรกของไทยและอาเซียน ได้รับเลือกเป็น People of ACM จากบทบาทพัฒนาทักษะซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ประชาชนภาคเหนือ เชื่อมเทคโนโลยีขั้นสูงสู่การสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหาพื้นที่
เปิดพูลวิลล่าหรูลวงเด็ก 17 ถ่ายคอนเทนต์หื่น
จับคู่รักครีเอเตอร์ลวงเด็กชาย 17 ถ่ายคอนเทนต์หื่นลงOnlyFans เสียค่าสมาชิกสร้างรายได้กว่า 4 ล้าน
ศบ.ทก. ขอประชาชนรู้ทันข่าวปลอมกัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้สั่งเก็บศพทหารเขมร
ศบ.ทก. ย้ำ ข่าวแม่ทัพ 2 สั่งเก็บศพทหารเขมรไม่จริง ขอปชช.เสพข่าวรู้เท่าทัน การปั่นของกัมพูชา เผยรายงานดีอี พบข่าวปลอมด้านความมั่นคงอื้อ ส่งผลปชช.ตื่นตระหนก เตือนตรวจสอบก่อนแชร์ ระวังแพร่ข่าวเท็จผิด พ.ร.บ.คอมฯ โทษสูงสุด จำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน
หมอธีระวัฒน์ ยกผลศึกษาวิทยาลัยแพทย์จีน ดูสื่อลามกบ่อยครั้งอาจส่งผลต่อสมอง
งานวิจัยทางประสาทวิทยาที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 เผยให้เห็นว่า การดูสื่อลามกบ่อยครั้งอาจส่งผลต่อสมองและอารมณ์ในลักษณะคล้ายกับผู้ที่ใช้สารเสพติด
สหรัฐเปลี่ยนใจเก็บภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์และสินค้าอิเลกทรอนิกส์อื่นๆในอีก 1 เดือน
สหรัฐหาทางเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์และสินค้าอิเลกทรอนิกส์อื่นๆพร้อมกับสารกึ่งตัวนำหรือเซมิคอนดัคเตอร์ ห


