ครม.ผ่านร่างกฎกระทรวงการคลัง 2 ฉบับ กำหนดหลักเกณฑ์แลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีไทย-สหรัฐ ป้องกันการเลี่ยงภาษีระหว่างประเทศ
25 ม.ค.2566 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ว่า ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการปฏิบัติการ ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ.2560 รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รายงานและเจ้าหน้าที่มีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตามความตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปี 2559 ไทยได้ลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศและการดำเนินการตาม FATCA (Foreign Account Tax Compliance Act) ซึ่ง FATCA เป็นกฎหมายของสหรัฐเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีที่ทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ ประเทศไทยจึงได้ออกพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ.2560 เพื่อเป็นกฎหมายรองรับพันธกรณีตามความตกลงและดำเนินการตาม FATCA โดยกำหนดให้มีหลักเกณฑ์ในการรวบรวมและนำส่งข้อมูลให้แก่เจ้าหน้าที่ ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงยกร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับขึ้น ออกตามความพระราชบัญญัติ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ฉบับแรก ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวมและนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงานในการรวบรวมข้อมูลและนำส่งข้อมูลต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจ รวมทั้งหน้าที่ในการจัดเก็บรักษาข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ดังนี้
1.กำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงาน โดยรวบรวมข้อมูลที่ต้องรายงาน ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ อาทิ ข้อมูลบัญชี ทางการเงิน ข้อมูลทางภาษี เช่น 1.ชื่อ ที่อยู่ และ U.S. Tin (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบุคคลสหรัฐ) 2.เลขบัญชี และ 3.เลขที่ระบุตัวตนของสถาบันการเงินไทยที่ต้องรายงาน เป็นต้น 2.ผู้มีหน้าที่รายงาน ต้องนำส่งข้อมูลภายในเดือนมิถุนายนของปีถัดไป นับแต่วันสุดท้ายของปีปฏิทินของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องรายงาน 3.การส่งข้อมูลจะถือว่าสมบูรณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของไทยได้อนุมัติและนำส่งข้อมูลผ่านระบบ IDES (International Data Exchange Service) และ 4.ผู้มีหน้าที่รายงานต้องจัดเก็บรักษาข้อมูลและเอกสารหลักฐานของลูกค้าเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี นับแต่ปีที่ได้รับข้อมูล
ฉบับที่สอง คือ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และการพิจารณา การยื่นขอหนังสือรับรองสถานะของการเป็นผู้มีหน้าที่รายงาน กรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอ และขั้นตอนการพิจารณารับรองสถานะของผู้มีหน้าที่รายงาน ดังนี้
1.ผู้มีสิทธิยื่นคำขอ ต้องเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีหน้าที่รายงานตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาฯ พ.ศ.2560 ได้แก่ 1.สถาบันการเงิน 2.บริษัทหลักทรัพย์ 3.บริษัทประกันชีวิต 4.บริษัทประกันวินาศภัย 5.ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 6.ผู้ดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา 7.ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และ 8.บุคคลที่ประกอบธุรกิจรับฝากหลักทรัพย์รับฝากเงินหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน
2.ยื่นคำขอหนังสือรับรองสถานะและเอกสารประกอบตามที่กำหนด ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร 3.กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาหนังสือรับรองสถานะ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้ง มีอำนาจหน้าที่ คือ 1.พิจารณาคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะ และ 2.ให้ความเห็นและคำแนะนาแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รัฐบาล-พท.' เสี่ยงผิดกม.! ดัน 'กาสิโน' เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
'นักเศรษฐศาสตร์' จับโกหกรัฐบาล-พท. ดันเปิดบ่อนกาสิโน หลอกลวงประชาชน ไม่เคยพูดตอนหาเสียง ตีแผ่สิงคโปร์โมเดลไม่ได้มีแต่โลกสวย เกิดคดีฆาตกรรมสามีขอเงินภรรยาไปเล่นพนัน
ครม. ตั้ง 'ราเชน ศิลปะรายะ' ขึ้นเป็นอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ครม. เห็นชอบยกเลิกบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 1/2568 ให้คณะรัฐมนตรี
รบ.เผย ’กฤษฎีกา’ แจงครม.ไม่ได้แย้ง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ แค่ให้ข้อสังเกตไปปรับแก้
เลขาฯ กฤษฎีกา แจง ที่ประชุมครม. พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้เห็นแย้งหรือเห็นต่าง เป็นเพียงข้อสังเกตที่สามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติมให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลได้
ครม. ไฟเขียว 'กม.กาสิโน' สั่งกฤษฎีกาดูข้อห่วงใย ก่อนส่งสภา
ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
'นายกฯอิ๊งค์' ขอเคลียร์ปม 'พ.ร.บ.กาสิโน' หลังถก ครม.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์