แนะจุดสังเกตแอปเงินกู้ แบบไหนนอกระบบ-ปลอม

27 พ.ค.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันบริการทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์มีความหลากหลาย โดยเฉพาะการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน ผู้ใช้บริการก็ให้ความนิยมเนื่องจากมีความสะดวกสบาย แต่ก็กลายเป็นช่องให้มิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวง ฉกฉวยเอารัดเอาเปรียบประชาชน มีตัวอย่างให้เห็นในข่าวตามสื่ออยู่เป็นระยะ

เมื่อเร็วๆ นี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือแบงก์ชาติ จึงได้มีข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีการสังเกตแอปพลิเคชันเงินกู้ว่าลักษณะแบบไหนเป็นแอปฯ ที่อยู่ในระบบได้รับการกำกับโดยแบงก์ชาติ แบบไหนเป็นแอปฯ เงินกู้นอกระบบ หรือลักษณะใดเป็นแอปฯ ปลอม เพื่อเป็นความรู้ป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกหลอกจากมิจฉาชีพ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรณีแอปฯ เงินกู้ที่ถูกกฎหมาย จะต้องเป็นแอปฯของผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท. ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับอนุญาตที่เป็นสถาบันการเงิน 39 แห่ง และที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) 120 แห่ง โดยผู้สนใจสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของ ธปท. หรือเข้าไปที่ https://bit.ly/3OG6vb7_BOT_license-loan

ทั้งนี้ ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจะถูกกำกับโดยกฎหมายที่เข้มงวด จ่ายเงินกู้ให้เต็มจำนวนตามกู้ และคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่กำกฎหมายกำหนด คือสินเชื่อส่วนบุคคลต้องคิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (นาโน ไฟแนนซ์) ไม่เกินร้อยละ 33 ต่อปี บัตรเครดิตไม่เกินร้อยละ 16 ต่อปี โดยสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการให้สินเชื่อแต่ละรายได้ที่เว็บไซต์ของ ธปท. https://app.bot.or.th/1213/MCPD/ProductApp/PersonalLoan

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากมีผู้มาเสนอให้บริการสินเชื่อผ่านแอปฯ ขอให้สนใจจะกู้เงินตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตตามช่องทางข้างต้นก่อน หากตรวจแล้วไม่พบชื่อ หรือมีชื่อแต่ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอไม่ตรงกับที่แจ้งไว้กับ ธปท. ขอ ให้คาดการณ์ไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพที่เป็นไปได้ทั้งแอปฯเงินกู้นอกระบบ หรือแอปฯ ปลอม

โดยกรณีแอปฯ เงินกู้นอกระบบจะมีลักษณะให้เงินกู้ไม่เต็มจำนวนตามกู้ เช่นอ้างว่าหักเป็นค่าดำเนินการ หักดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า แต่ผู้กู้ยังต้องชำระเต็มจำนวน มีการคิดดอกเบี้ย/ค่าปรับสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดมาก ระยะเวลาการชำระคืนสั้น มีการทวงหนี้แบบข่มขู่ คุกคาม ซึ่งกรณีที่พบบ่อยคือเมื่อติดตั้งแอปพลิเคชันลงโทรศัพท์มือถือแล้ว ผู้ปล่อยกู้จะสามารถเข้าถึงรายชื่อในโทรศัพท์ของผู้กู้ จะมีการส่งข้อความ หรือโทรหาบุคคลต่างๆ ตามรายชื่อในโทรศัพท์เพื่อข่มขู่ ประจานให้ผู้กู้อับอาย เป็นต้น

ส่วนถ้าเป็นแอปฯ เงินกู้ปลอม จะหลอกให้โอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายก่อน เช่น ค่าค้ำประกัน ค่าทำสัญญา แล้วให้โอนอีกเรื่อยๆ แต่สุดท้ายไม่ได้ให้กู้จริง

“ภาครัฐมีการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการทำงาน เร่งรัดกวาดล้างมิจฉาชีพที่แพร่ระบาดในช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก แต่การแจ้งเตือนให้ประชาชนให้ระมัดระวัง เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพ รู้วิธีหรือจุดสังเกตเปรียบเทียบได้บริการทางการเงินในช่องทางออนไลน์ จะเป็นการป้องกันที่สำคัญและลดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มาก” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หัวใจ รทสช. คือ ลุงตู่ สมัครใจเป็นฝ่ายค้าน ไม่รับเงื่อนไขร่วมรัฐบาลโดยไม่มีประยุทธ์

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการขับเคลื่อนพรรคหลังการเลือกตั้ง ว่า วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติยังคงเดินหน้าทำงานด้านการเมืองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พรรคมีความเข้มแข็งขึ้น ตามแนวทางและอุดมการณ์ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรค

รฟท. เล็งชงครม.เคาะกู้เงิน 1.8 หมื่นล้านบาทเสริมสภาพคล่อง

การรถไฟฯ เตรียมชง ครม.อนุมัติกู้เงินเสริมสภาพคล่อง 1.8 หมื่นล้านบาท หนุนดำเนินกิจการปีงบประมาณ 2567 หลังประมาณการณ์รายรับรายจ่ายจ่อติดลบ เหตุยังมีภาระชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ครบกำหนด

ครม.เห็นชอบ ยธ. แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและอุ้มหาย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ/เห็นชอบในเรื่องแต่งตั้ง วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ดังนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคล

นายกฯ ย้ำรัฐบาลรักษาการทำหน้าที่ดีที่สุด สั่งทุกหน่วยเร่งรัดเบิกจ่ายงบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดเงิน

ต่างชาติแห่เที่ยวประเทศไทยใกล้แตะ 10 ล้านคน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทุกช่อง

แนะคนพลาดเข้าคูหาเลือกตั้ง แจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิ 15-21 พ.ค.นี้

รัฐบาลแนะคนพลาดเข้าคูหา แจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอ ท้องถิ่น หรือช่องทางออนไลน์ ระหว่าง 15-21 พ.ค. ป้องกันการถูกจำกัดสิทธิสำคัญ 5 ประการ