นายกฯ ปลื้มสถาบันคลังสมองมะกันยกไทยมั่งคั่งอันดับ 55 ของโลก

​นายกฯ ยินดีสถาบัน Atlantic Council จัดอันดับไทยเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งอันดับที่ 55 ของโลก อับดับ 3 ของอาเซียน คะแนนด้านสุขภาพสูงสุดสะท้อนศักยภาพและความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย

29 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานการจัดอันดับดัชนีว่าด้วยเสรีภาพและความมั่งคั่ง (Freedom and Prosperity Indexes) ประจำปี 2566 ของสถาบัน Atlantic Council สถาบันคลังสมองในสหรัฐอเมริกา และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งอันดับที่ 55 จากทั้งหมด 164 ประเทศทั่วโลก และถือเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ซึ่งอยู่อันดับที่ 16 และมาเลเซีย อันดับที่ 53 โดยไทยได้คะแนนตัวชี้วัดด้านสุขภาพสูงถึง 90.9 คะแนน สะท้อนศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2566 สถาบัน Atlantic Council ได้เผยแพร่รายงานดัชนีว่าด้วยเสรีภาพและความมั่งคั่งของ 164 ประเทศทั่วโลก ประจำปี 2566 โดยวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ในปี 2565 จากสถาบันที่น่าเชื่อถือรวมกว่า 11 สถาบัน สำหรับดัชนีความมั่งคั่ง (Prosperity Index) ไทยได้คะแนนเฉลี่ยรวม 68.6 คะแนน (เท่ากับการประเมินประจำปี 2565) จากตัวชี้วัดสำคัญ 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขภาพ (Health) ซึ่งเป็นด้านที่ไทยได้รับคะแนนสูงสุดถึง 90.9 คะแนน 2) ด้านสภาพแวดล้อม (Environment) 80.6 คะแนน 3) ด้านสิทธิของชนกลุ่มน้อย (Minority Rights) 77.6 คะแนน 4) ด้านรายได้ (Income) 65.2 คะแนน 5) ด้านความไม่เท่าเทียม (Inequality) 49.1 คะแนน และ 6) ด้านการศึกษา (Education) 48.5 คะแนน ทั้งนี้ ไทยจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีความมั่งคั่งเป็นส่วนใหญ่ (Mostly Prosperous)

นายอนุชากล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ไทยได้รับคะแนนด้านสุขภาพสูงถึง 90.9 คะแนน สะท้อนชัดถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งที่ผ่านมา ไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบสาธารณสุข ทั้งในระดับโลกและในระดับภูมิภาค อาทิ การได้รับเกียรติให้เป็นประเทศต้นแบบจัดการโควิด-19 ยอดเยี่ยม การได้รับความเชื่อมั่นให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) เป็นต้น ซึ่งการประเมินในครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการย้ำศักยภาพที่ยอดเยี่ยม และสร้างชื่อเสียงด้านสาธารณสุขของไทยในระดับสากล

“นายกฯ ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจอย่างแข็งขันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย จนได้รับการยอมรับในคุณภาพ มาตรฐาน สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศในระดับสากล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพและความพร้อมของไทย ประกอบกับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล จะเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัย' อวดผลงานนายกฯ หารือผู้นำมาเลย์อีกรอบ

โฆษกรัฐบาลเปิดเผยผลสำเร็จการเดินทางลงพื้นที่ด่านสะเดาของนายกฯ การหารือระหว่างผู้นำไทย-มาเลเซีย เห็นผลการพัฒนาความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ต่อยอดพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้ก้าวหน้า

โฆษกรัฐบาลปัดข่าว 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ต่อรองค่าไฟก่อนลงทุน

โฆษกรัฐบาลชี้แจง Google, Microsoft และ Tesla ไม่เคยต่อรองราคาค่าไฟกับรัฐบาล สิ่งที่ต้องการคือพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลไทยสามารถรองรับได้

'จา พนม' คว้าสามรางวัลใหญ่ระดับโลก เสนอศาสตร์การต่อสู้เป็น Soft Power

แอคชั่นสตาร์สายเลือดไทยระดับโลก จา-พนม ยีรัมย์ หรือ โทนี่จา คว้ารางวัลสร้างชื่อให้ประเทศไทยมากมายซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่เหล่านักแสดงสายศิลปะการต่อสู้ให้ความสำคัญเทียบเท่ากับรางวัลออสการ์ โดยเจ้าตัวเปิดเผยความรู้สึกและความประทับใจผ่านรายการ "ทัวร์มาลง" ทางช่อง MONO29

รัฐบาลตีปี๊บผลงานโบว์แดงอีกรอบ! เศรษฐาหารือ 'ไมโครซอฟท์-เทสลา'

'ชัย' เผยรัฐบาลพยายามต่อยอดผลหารือ นายกฯ กับภาคเอกชนชั้นนำของโลก เร่งเดินหน้าสานต่อให้เกิดการตกลงทางธุรกิจให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นำประโยชน์สู่ประเทศโดยเร็ว

นายกฯ ขนคณะตรวจราชการพื้นที่ 'ป๋าเหนาะ' 25 พ.ย.

นายกฯ เตรียมเดินทางตรวจราชการ จ.สระแก้ว 25 พ.ย.นี้ ติดตามความคืบหน้าพื้นที่ก่อสร้างอาคาร CIQ กรมศุลกากร -ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว