นายกฯ ติดตามแนวทางการพัฒนามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ขอบคุณภาคอุตสาหกรรมร่วมกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบต่อสังคม
09 ส.ค.2566 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจติดตามแนวทางการพัฒนามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีรับฟังความก้าวหน้าและการนำเสนอประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เป้าหมาย Net Zero กับโอกาสของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งโครงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของเมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์ และโครงการพัฒนาบุคลากรสําหรับเทคโนโลยีขั้นสูงในภาคอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) โดยสถาบันวิทยสิริเมธี
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า นายกฯ ได้ย้ำถึงสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการขับเคลื่อน EEC และ EECi รวมถึง EEC ด้านอื่น ๆ ทั้ง EECi EECh EECd EECmd และ EECa เพื่อเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศส่งต่อไปสู่อนาคตอย่างมั่นคง และยั่งยืน พร้อมชื่นชมสถาบันวิทยสิริเมธี และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันพัฒนาทรัพยากรบุคคลของสถาบันฯ ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพและศักยภาพในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพทัดเทียมสถาบันอุดมศึกษาชั้นนําระดับโลก เพื่อผลิตนักวิจัยในการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม เน้นพลังสร้างสรรค์แห่งการเรียนรู้ที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ทำให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมขอบคุณที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกันขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลจนเกิดผลเป็นรูปธรรมในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อพัฒนาชุมชนและประเทศไปสู่อนาคต
จากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยของนักศึกษาสถาบันวิทยสิริเมธี เช่น เทคโนโลยีผลิตสารบำรุงพืชชีวภาพไบโอวิส (BioVis) ระบบถังสุดดี (ขยะอินทรีย์จากเศษอาหารจากโรงเรียนและชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ) จำนวน 29 สถานี 14 จังหวัด
สำหรับการขับเคลื่อนการดำเนินการพัฒนามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย เป็นการดำเนินการที่สอดรับกับการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งในการประชุมระดับผู้นำรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties: COP) สมัยที่ 26 (COP26) เมื่อปี 2564 นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ในการยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศของไทย พร้อมร่วมมือกับทุกประเทศและทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญของโลก เพื่ออนาคตของประชาชนรุ่นหลัง และได้ให้คำมั่นในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมทั้งปรับปรุงการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็น 30-40% ภายใน ปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) จากเดิม 20 -25% นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ ฉบับปรับปรุง และจัดทำ NDC Roadmap เพื่อรองรับและส่งเสริมการพัฒนาที่ยืดหยุ่นกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงขอความร่วมมือให้ภาคอุตสาหกรรมคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ตามนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้กระบวนการผลิตดำเนินไปควบคู่กับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ด้วย ซึ่งภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจสามารถนำแนวคิดเศรษฐกิจ BCG มาปรับใช้ต่อยอดการดำเนินกิจการต่อไปได้ เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ นำ ครม.ดูงานศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904
นายกฯ นำ ครม. แต่งชุดจิตอาสาพระราชทาน ศึกษาดูงานหลักสูตรการฝึกปฏิบัติ และดูงานเศรษฐกิจพอเพียง ของศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904
'เศรษฐา' โนสนโนแคร์ควงสหายอ้วนกินข้าวเที่ยง 'ทักษิณ'
'เศรษฐา' ควง 'ภูมิธรรม' กินข้าวเที่ยงกับ 'ทักษิณ' โรงแรมย่านสุขุมวิท ท่ามกลางกระแสข่าวปรับ ครม.
14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ
'คารม' ย้ำขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค.นี้ คกก.ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ
'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!
โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย
รัฐบาลโวแก้ปัญหาชาวบ้านร้องเรียนได้ถึง 75%
รัฐบาลทำจริง! แก้ไขปัญหาประชาชนแบบจับต้องได้ ไตรมาส 2 ปีงบ 67 ศูนย์บริการประชาชน 1111 แก้ปัญหาเสร็จสิ้นถึง 75%
รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!
รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน