19 ส.ค.2566 - นายสมโชค เสนา นายอำเภอถ้ำพรรณรา ได้รับรายงานด่วนจาก สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีอุบัติเหตุหมู่พบแรงงานชาวโรฮิงญาจำนวนหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนกอ หมู่ 6 ต.ถ้ำพรรณรา เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายชุดเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรณรา ผกก.สภ.ถ้ำพรรณราพร้อมนายกฤตนัย หงษ์ทอง กำนันตำบลถ้ำพรรณรา นายพรภิชัย ขลุดสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ถ้ำพรรณรา รีบประสานงานสนับสนุนกู้ภัย ระดมกันเข้าช่วยเหลือทันที
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนเดียวแบบตู้ทึบด้านหลัง ทะเบียน บว 2126 นครศรีธรรมราช สภาพกลายเป็นซาก ภายในมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ 2 ราย เป็นเพศหญิง ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือกระจายเกลื่อนบนถนน และส่วนหนึ่งพยายามช่วยเหลือกันเอง เข้าไปนั่งพักบริเวณเพิงข้างทาง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพใกล้ที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นยังมีบางรายวิ่งหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ติดตามมาได้อีก 2 ราย ส่วนคนขับหลังเกิดเหตุได้หลบหนีหายไป คาดว่าน่าจะมีรถมารับหลบหนี
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่ามีจำนวนผู้บาดเจ็บรวม 33 ราย มีทั้งชายและหญิง ทั้งหมดถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลถ้ำพรรรา โรงพยาบาลทุ่งใหญ่ โรงพยาบาลทุ่งสง และมีอีกบางรายที่ส่งต่อมายังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เนื่องจากอาการสาหัส ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูง และเครื่องมือพยุงชีพ ผู้บาดเจ็บมีเพียง 1 ราย ที่เป็นหญิงไทย ทราบว่าเป็นภรรยาของคนขับ ส่วนที่เหลือนั้นเป็นชาวโรฮิงญาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างนำล่ามแปลภาษาเข้าทำการสอบสวน
จากการสอบสวนในเบื้องตื้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถคันนี้บรรทุกชาวโรฮิงญามา 32 คน โดยมีคนขับเป็นชายไทย 1 คน และมีผู้หญิงนั่งตอนหน้า 1 คน ซึ่งก็คือผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ในซาก ซึ่งใชรถคันดังกล่าวขนย้ายชาวโรฮิงญาทั้งหมดมุ่งหน้าล่องใต้คาดว่าปลายทางน่าจะเป็นประเทศมาเลเซีย และยังไม่ทราบว่าขับออกมาจากต้นทางยังไม่ชัดว่าเป็นจุดใด เมื่อขับมามาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งเล็กดน้อยน มีราวเหล็กกั้นริมถนนและมีสะพานลอยขามถนน คาดว่าคนขัยอาจจะหลับใน เป็นเหตุให้รถเสียหลักพุ่งไปชนป้ายไหล่ทางใกล้กับสะพานลอย ก่อนที่รถจะเสียหลักพลิกคว่ำไปฟาดกับเสาสะพานลอยอย่างรุนแรง จนรถพังยับเยิน ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในรถทั้งหมดได้บาดเจ็บดังกล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รับทราบแล้ว และจะได้ตั้งคณะกรรมการสหวิชาชีพเข้าสอบสวนคัดกรอง ว่าเป็นการลักลอบขนแรงงานเถื่อนโยผิดกฎหกมายเข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ และคดีดำเนินตามกระบวนการและขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดีจากสิมิลัน ‘แม่สายฝน’ กลับมาวางไข่รังที่ 3 ยืนยันทะเลไทยยังอุดมสมบูรณ์
อุทยานหมู่เกาะสิมิลันพบเต่าตนุขึ้นวางไข่ 62 ฟอง ที่หาดเล็ก เกาะเมียง คาดเป็น “แม่สายฝน” ตัวเดิม นับเป็นรังที่ 3 ของฤดูกาล สะท้อนความสำเร็จในการอนุรักษ์ทะเลไทยตามแนวพระดำริ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ
'วุฒิสภาไทย' โชว์โปร่งใส-ตอบโจทย์ปชช. ผ่าน 4 กลไก บนเวทีลาว
'วุฒิสภาไทย' แลกเปลี่ยนประสบการณ์รัฐสภาระดับภูมิภาค ณ เวียงจันทน์ ชู 4 กลไก สอดรับแนวปฏิบัติ 'เปิดเผย-ตอบสนองประชาชน'
รวบแก๊งขนต่างด้าวผิวสี 13 คน ใช้ตราประทับปลอม หวังผ่านด่านเข้าไทย
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ และ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผบก.ตม.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้
'อนุทิน' แบ่งโซนพื้นที่ให้ 6 รองนายกฯ 4 รมต.รับผิดชอบ
ครม.แบ่งพื้นที่ตรวจราชการรองนายกฯ-รมต. 'พิพัฒน์' คุมภาคใต้ 'โสภณ' ดูอีสาน 'บวรศักดิ์' แค่สงขลาบ้านเกิด 'เอกนิติ' กำกับปริมณฑล 'ธรรมนัส' 3 จชต.-เหนือตอนบน 'สุชาติ' ภาคตะวันออก 'ภราดร' กลางตอนบน 'ศุภมาศ' เหนือตอนล่าง 'นภินทร' คุมกลางตอนล่าง 'สันติ' ดูโซนเพชรบูรณ์
ชายวัย 64 กะซวกเมียร่างทรงดับคาศาลเจ้าแม่ อ้างถูกฟันก่อนป้องกันตัว
เกิดเหตุสลดในนครศรีธรรมราช ชายวัย 64 แทงอดีตภรรยาร่างทรงเจ้าแม่เสียชีวิต หลังถูกบุกงัดหน้าต่างใช้มีดพร้าฟันหลายแผล ผู้ก่อเหตุอ้างป้องกันตัว ก่อนโทรแจ้งลูกชาย
รวบแล้ว สองพ่อลูกหัวร้อน ยิงเพื่อนบ้านเจ็บ-ตาย กลางงานบวช ทั้งคู่ยังปฏิเสธ
จากกรณีนายสมควร อายุ 35 ปี จ.ขอนแก่น ใช้อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ดัดแปลง ขนาดกระสุน .380 ยิงใส่เพื่อนบ้าน และนายมวน อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นบิดานายสมควร ได้ใช้อาวุธมีดฟันซ้ำ จนทำให้นายธีรวัฒน์ นามวิเศษ อายุ 27

