
8 ก.ย. 2566 – กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศประจำวันว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมารายภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณ จ.พิษณุโลก (125) จ.ตราด (89) จ.มุกดาหาร (72) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (48) จ.สงขลา (47) จ.ลพบุรี (46)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 44,919 ล้าน ลบ.ม. (54%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,212 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) (56%)
กอนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ฉบับที่ 17/2566 ในช่วงวันที่ 5-10 ก.ย. 66 บริเวณ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก แพร่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย ชัยภูมิ มุกดาหาร นครพนม และนครราชสีมา ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคกลาง จ.อุทัยธานี และกาญจนบุรี ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ระนอง และภูเก็ต และเฝ้าพื้นที่เสี่ยงระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา จ.น่าน
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำกำลังพลพร้อมยานพาหนะเครื่องจักรกล รยบ.เทท้าย จำนวน 2 คัน และรถขุดตัก จำนวน 1 คัน ร่วมกับ อบต.หนองสูงใต้ หน่วยงานราชการ ประชาชนในพื้นที่ ดำเนินการขุดลอกวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง บริเวณห้วยลำแสด บ้านดอนกลาง ม.2 ต.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
กอนช. เร่งกักเก็บน้ำไหลเข้าเขื่อนจากฝนตกเพิ่มในช่วงนี้พร้อมส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรทดแทนการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ กอนช. ในช่วงนี้มีปริมาณฝนตกที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ส่งผลดีในเรื่องของการเติมน้ำต้นทุนให้แก่แหล่งน้ำต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันภาพรวมฝนของประเทศยังคงต่ำกว่าค่าปกติอยู่ 18% ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำทั่วประเทศลดลงจากต้นฤดูฝนจากผลกระทบของสภาวะเอลนีโญ ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำในการช่วยเหลือการเพาะปลูกของเกษตรกรจนกว่าจะถึงช่วงเก็บเกี่ยว ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ใหญ่ทั้งประเทศ สะสม 1,201 ล้าน ลบ.ม.และเนื่องจากปัจจุบันยังคงมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น จึงคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือบริเวณชายขอบและตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงภาคกลางที่ปัจจุบันยังคงมีฝนน้อยมากด้วย และคาดว่าจะมีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ใหญ่ ในสัปดาห์หน้าเพิ่มอีก 3,205 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะต้องกักเก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการส่งเสริมอาชีพทดแทนในพื้นที่ควบคุมไม่ให้มีการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง โดยจะมีการจัดทำเมนูอาชีพทางเลือกต่างๆ รวมทั้งแผนงาน โครงการ และงบประมาณ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการควบคุมการเพาะปลูกเพื่อสงวนปริมาณน้ำไว้ให้เพียงพอสำหรับฤดูแล้งที่จะมาถึง ซึ่งจะยังคงอยู่ในสภาวะเอลนีโญอย่างต่อเนื่อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
อวยไส้แตก! สิ่งที่เท้งทำตอนน้ำท่วม ถ้าได้บริหารประเทศ จะตอบโต้สถานการณ์น้ำท่วมได้
ตอนน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ปีก่อน เท้งมาแบบคนที่ตาใสเลย นับ 1 จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่มีความตั้งใจ มาแต่ตัวจริงๆ ไม่มีแม้อุปกรณ์ล้างบ้าน ตั้ง
อุตุฯ เตือนใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนือ-อีสาน-กลางอุณหภูมิลดลง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล
“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่
‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ
‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์


