แทนตำรวจรถไฟ 'รฟท.' เคาะงบ 34 ล้านดูแลความปลอดภัยผู้ใช้บริการ

บอร์ด รฟท. เคาะงบ 34 ล้าน จ่ายเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารรถไฟ หลังตำรวจรถไฟถูกยุติบทบาท รฟท. การันตีผู้โดยสารอุ่นใจในการใช้บริการ ได้มาตรฐานเหมือนเดิม ลุยติดตั้งกล้องCCTV เสริมมาตรการดูแลความปลอดภัย

1 พ.ย.2566-นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบจ่ายเบี้ยเลี้ยงเดินทาง เบี้ยเลี้ยงทำขบวนให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจที่เข้าปฏิบัติหน้าที่รักษาดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟ จำนวน 34 ล้านบาท ตั้งแต่เดือน ต.ค.66-ต.ค.67 ภายหลังจากกองบังคับการตำรวจรถไฟถูกยุบตามพระราชบัญญัติ(พรบ.)ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ทั้งนี้เบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้จัดเจ้าพนักงานตำรวจเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามอัตราเดิมประมาณ 200-300 นาย โดยการจ่ายเบี้ยเลี้ยงดังกล่าวจะจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินวงเงิน 34 ล้านบาท

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้าที่จะมีการยุบกองบังคับการตำรวจรถไฟ(บก.รฟ.) ทาง รฟท. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในเขตระบบรถไฟ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2565 กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย ป้องกัน และปราบปรามปัญหาอาชญากรรมในเขตระบบรถไฟทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดย บช.ก. จะเข้ามาช่วยรับผิดชอบดูแลสถานีรถไฟ บนขบวนรถไฟ และพื้นที่ต่างๆ ของ รฟท. ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 จะเข้ามาดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ จึงขอให้ผู้โดยสารมั่นใจ และอุ่นใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟ ทั้งภายในขบวนรถทุกขบวน และสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศได้ โดยยืนยันว่าจะมีการดูแลที่ได้มาตรฐานเหมือนเดิม

“เจ้าพนักงานตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รักษาดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟนั้นทาง บช.ก และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 จะเป็นผู้จัดสรร และจัดแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบว่าใครจะรับผิดชอบขบวนใด และพื้นที่ใด ซึ่งหลังจากที่ บก.รฟ. ได้ถูกยุติการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2566 ทางเจ้าพนักงานตำรวจก็ได้เข้ามาปฏิบัติทดแทนทันที ไม่ให้มีช่องว่าง และขาดตอนเรื่องความไม่ปลอดภัยในการใช้บริการบนขบวนรถไฟ และพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตามวงเงินค่าเบี้ยเลี้ยงฯ 34 ล้านบาท เป็นวงเงินเดิมที่ รฟท. เคยจ่ายให้กับตำรวจรถไฟในแต่ละปีอยู่แล้ว”นายนิรุฒ กล่าว

อย่างไรก็ตาม รฟท. จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสนับสนุน แลกเปลี่ยน วางแผนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในเขตพื้นที่ของ รฟท. ด้วย ทั้งในเรื่องของข้อมูลคนร้าย ผู้ก่อเหตุผู้ต้องสงสัย ข้อมูลระบบกล้องวงจรปิด เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในเขตพื้นที่รถไฟทุกรูปแบบ ตลอดจนช่วยป้องกันปัญหาการโจรกรรมทรัพย์สินของ รฟท. ด้วย

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมอบให้ รฟท. พิจารณาจัดหามาตรการเสริมเรื่องการดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารให้มากขึ้นด้วย เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด อาทิ ติดตั้งกล้อง CCTV ตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบนขบวนรถไฟให้มากขึ้น และการติดกล้องที่หน้าอกของพนักงานตรวจตั๋วโดยสาร เป็นต้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างกล้อง CCTV และกล้องติดหน้าอกพนักงานตรวจตั๋ว ได้ในปี 2567 ซึ่งแม้ รฟท. ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่เรื่องความปลอดภัยเป็นนโยบายที่ รฟท. ให้ความสำคัญที่สุด จะไม่นำเรื่องขาดทุนมาเป็นอุปสรรค.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.ยธ.' การันตี! ไม่จุ้นคดี 'เขากระโดง-ฮั้ว สว.' ปล่อยหน่วยรับผิดชอบทำไป

'รุทธพล' ประเดิมคุม ยธ. วันแรก ยันไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ปล่อยหน่วยงานรับผิดชอบทำต่อไป เผยหลังแถลงนโยบาย เดินหน้าเต็มสูบปราบพนันออนไลน์-ยาเสพติด

เปิดเอกสาร การรถไฟ ฯยื่นแบบ ส.ค.1 ปี 2498 อ้างสิทธิครอบครองที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ พิรุธพรฎ.ไม่ระบุวัน เดือน ปี

ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้มีการเผยแพร่เอกสาร “แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)” เลขที่ 1180 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 27

'ภูมิธรรม' โต้กลับ! มีแต่นิติบุคคลโวย 'เขากระโดง' ปรามทนายบุรีรัมย์สุภาพหน่อย

'ภูมิธรรม' มั่นใจ รฟท. ยึด 'พ.ร.ฎ.-แผนที่' แนบท้ายเขากระโดง ชาวบ้านเสียหายเรียกร้องสิทธิได้ตามกฎหมาย แต่เห็นมีแต่นิติบุคคลออกมาโวย ยันสั่งเพิกถอนไม่เกี่ยวกับตนเอง ปรามทนายบุรีรัมย์สุภาพหน่อย

DSI เร่งสางคดีเขากระโดง สั่ง 4 หน่วยส่งข้อมูล 15 วัน ก่อนลุยพื้นที่จริง

'ดีเอสไอ' เร่งสอบพิพาทที่ดินเขากระโดง หลังศาลฎีกาตัดสินเป็นของ รฟท. ลุยตรวจโฉนด-ฟอกเงิน หลังพบนิติบุคคลครอบครองกว่าพันไร่ ประสาน 4 หน่วยงานส่งข้อมูลใน 15 วัน จ่อลงพื้นที่สอบผู้เกี่ยวข้อง

ศาลปกครอง มีคำสั่งคุ้มครองที่ดิน 995 ฉบับ และแปลงอื่นๆในพื้นที่เขากระโดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไท