นายกฯ ใส่ถุงเท้าสีฟ้าแจ่มๆ หารือผู้บริหารโตโยต้า

นายกฯ หารือคณะผู้บริหารบริษัทโตโยต้า ย้ำการลงทุนอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ในไทย ผลักดันไทยเป็นนศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค

09 พ.ย.2566 - ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชีย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และนายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และคณะผู้บริหาร เยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายกฯ กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบคณะผู้บริหารจากบริษัทโตโยต้า โดยยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลตระหนักดีถึงความสำคัญของบริษัทยานยนต์ญี่ปุ่นห่วงโซ่อุปทานของไทย ซึ่งไม่ใช่เพียงบริษัทโตโยต้าเท่านั้น แต่รวมไปถึงทุกบริษัทยานยนต์ญี่ปุ่น ทั้งนี้ ด้วยบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป รัฐบาลจึงได้เตรียมความพร้อม ทั้งการเชิญชวนการลงทุนต่าง ๆ การหาแนวทางและมาตรการที่เหมาะสม เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการ โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะมีการหารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ร่วมกันในอนาคตให้ครอบคลุม ทั้งปัจจัยภายใน คือ การปรับปรุงโครงสร้าง (Internal structure) และปัจจัยภายนอก คือ การเพิ่มมาตรการหรือแรงจูงใจ (Incentive) ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนธันวาคม 2566 นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการที่จะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น

ด้านบริษัทโตโยต้า กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ในไทยที่มีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะและ Eco-Car ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งไทยมีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจึงกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกไปทั่วโลกโดยยืนยันว่าจะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมไปถึงแนวทางการผลิตยานยนต์ทั้งประเภทรถยนต์สันดาป (ICE) ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง HEV, PHEV, BEV และ FCEV เพื่อรักษาห่วงโซ่อุปทานและภาคการส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นด้านนโยบายและมาตรการยานยนต์ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายด้าน EVs พลังงานสะอาด สนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดการลงทุนใหม่ ๆ และมุ่งเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งในอาเซียน ด้านบริษัทโตโยต้าเห็นพ้องที่จะสนับสนุนนโยบายของไทย โดยขอให้มีการสนับสนุนระยะยาวผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุน เพื่อรับประกันการผลิตและการขายรถยนต์ทั้งการขายในประเทศและการส่งออก รวมถึงเสนอแนะให้รัฐบาลมีมาตรการที่ครอบคลุมถึงการรองรับยานพาหนะที่หมดอายุการใช้งาน (ELV) ซึ่งจะมีผลต่อการฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมดตามนโยบายพลังงานสะอาดของไทยอีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจในประเด็นดังกล่าว ซึ่งจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือร่วมกัน เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมร่วมกัน

ในช่วงท้าย นายกฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ สร้างผลประโยชน์ที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งร่วมกันได้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อประโยชน์ร่วมกันต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมศักดิ์' เชื่อไม่ซ้ำรอยรัฐบาลเศรษฐา โยนฝ่ายกฎหมายแจง 6 ประเด็นคำร้องยุบพท.

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. สาธารณสุข ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมืองในขณะนี้โดยเฉพาะกรณีนายธีรยุทธ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้องในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย(พท.)

นายกฯ ยันนโยบายส่วนใหญ่สานต่อยุคเศรษฐา!

นายกฯ เผยได้ข้อสรุปนโยบายส่วนของเพื่อไทยวันนี้ ขณะพรรคร่วมฯทยอยส่งนโยบายรัฐบาลแล้ว เชื่อปมกัญชาไม่เป็นปัญหาคุยกันได้ ส่วน 'เพื่อไทย' ยังเหมือนเดิม แต่ปรับรายละเอียดดิจิทัลวอลเล็ตเล็กน้อย

'อดิศร' รับเป็นผู้เปิดประเด็นเขี่ยพลังประชารัฐพ้นพรรคร่วม

'อดิศร' อัดคนร่วม รบ.ต้องมีความจริงใจไม่ใช่ถือมีดสั้นปักหลัง เมินนักร้อง ร้องเรียนภายหลังบอกเป็นเอกสิทธิ์ แต่ถามกลับ ทำหน้าที่อะไรบ้าง จวกสร้างแต่ความเสียหายให้ประเทศ

'เศรษฐา'โผล่ร่วมงานใหญ่! อวยอุ๊งอิ๊งเป็นผู้นำแข็งแกร่งวิสัยทัศน์เฉียบแหลม

'เศรษฐา' ร่วมงานฉลอง 8 ทศวรรษความสัมพันธ์อินเดีย-ไทย บอกเชื่อใจ 'นายกฯอิ๊งค์' เป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง วิสัยทัศน์ทางธุรกิจเฉียบแหลม สามารถสานต่อความร่วมมือสองประเทศยิ่งขึ้น

'เศรษฐา' เปิดทรัพย์สินในฐานะอดีตขุนคลังอึ้ง! ผลตอบแทนโทเคนดิจิทัล 139 บาท

เปิดคลังสมบัติ 'เศรษฐา' หลังพ้นรมต. รวย 1,080 ล้านบาท รายได้ 23 ล้านบาท หนี้สินแค่ 7 หมื่น เทียบลดลงจากวันที่รับตำแหน่งปี 66 1.7 ล้าน หนี้ลด 10 ล้าน