'ธนกร' แนะผู้ปกครอง-ครูใส่ใจพฤติกรรมเด็ก

'ธนกร' ฝาก ผู้ปกครอง-ครู ใส่ใจพฤติกรรมเด็กใกล้ชิด หลังพบเยาวชนก่อเหตุรุนแรงไม่แผ่ว แนะครอบครัวช่วยชี้แนวทางสร้างภูมิคุ้มกัน เริ่มจากที่บ้าน หวั่นทำพฤติกรรมเลียนแบบโซเชียลฯ-เกม

31 ม.ค.2567 - นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงเหตุเด็ก ม.2 ก่อเหตุจนเพื่อนเสียชีวิต ว่า ช่วงหลังพบเด็กและเยาวชน ก่อเหตุรุนแรงในสังคมอย่างต่อเนื่อง จากกรณีล่าสุดเด็ก ม.2 สะท้อนถึงการใส่ใจของครูประจำชั้นและโรงเรียนที่ยังไม่มีความรอบคอบ รัดกุมซึ่งก่อนก่อเหตุ เด็กคนดังกล่าวขออาวุธจากเพื่อนในห้อง ตนคิดว่า หากครูทราบเรื่องดังกล่าว ควรป้องกันก่อนจะเกิดเหตุในทุกทาง เช่นการไปพบผู้ปกครองพูดคุยเพื่อร่วมแก้ปัญหา ตรวจกระเป๋านักเรียนป้องกันการพกพาอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย บุหรี่ หรือยาเสพติด เข้ามาภายในบริเวณโรงเรียนได้

เมื่อถามว่า ปัจจุบันสิ่งเร้าหลายอย่างทำให้เด็กมีพฤติกรรมเลียนแบบ ทั้งเกมและโซเชียลมีเดีย นายธนกร กล่าวว่า ที่สำคัญคือผู้ปกครอง เริ่มจากครอบครัวต้องใส่ใจพูดคุย รับฟังปัญหาของเด็กเพื่อช่วยคลายข้อกังวล ความเครียดในใจ คอยชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้คิดเป็น คิดถูก ตอบสนองต่อปัญหาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในปัจจุบันมีโซเชียลมีเดียหลายช่องทางรวมถึงเกมออนไลน์ที่มีการใช้ความรุนแรงอาจทำให้ เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ ผู้ปกครองต้องสร้างความเข้าใจและชี้ให้เห็นถึงโทษที่จะเกิดขึ้นตามมา หากทำเลียนแบบพฤติกรรมรุนแรง ไม่ปล่อยประละเลยหรือตามใจจนเสียคน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน เริ่มจากที่บ้าน ก่อนที่จะสายเกินไป เช่น กลุ่มวัยรุ่นจ.สระแก้วรุมก่อเหตุจนมีผู้เสียชีวิต พบว่าก่อนหน้านั้น ก็มีการก่อเหตุรุนแรงมาหลายคดี จึงมองว่า ต้นตอปัญหา คือครอบครัวที่บ้านมีการอบรมสั่งสอนดูแลลูกมาอย่างไร เมื่อเกิดคดีขึ้นกลับมีการให้ท้ายเด็ก จึงเกิดความย่ามใจและก่อเหตุเรื่อยมา ท้ายสุดพ่อแม่ต้องร่วมกันรับผิดชอบรับโทษทางคดีตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ไปด้วย

“ผมเคยผ่านวัยรุ่นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมา รู้เลยว่ามีความคึกคะนอง หากไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากพ่อแม่ ครอบครัว ครู อาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่ ก็อาจจะมาไม่ถึงทุกวันนี้ จึงอยากฝากให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง คนในครอบครัวให้เวลาใส่ใจบุตรหลานมากขึ้น รับฟังปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้ทันกาล อย่าให้ทุกอย่างมันสายเกินไป ครูและโรงเรียน คือบ้านหลังที่ 2 ก็ต้องใส่ใจเด็กเช่นกัน หาทางป้องกัน ยังดีกว่ามาแก้ปัญหาทีหลัง เพราะกว่าจะแก้ได้ เด็กก็เสียคน เสียโอกาส เสียประวัติ และเสียอนาคตไปแล้ว หากพลาดพลั้งก่อเหตุรุนแรง“ นายธนกร ย้ำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุชาติ’ ลั่นไม่ยึดติด หลังมีชื่อนั่ง รมต. ยันปรับ ครม.อำนาจนายกรัฐมนตรี

พรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในกลไกของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และผู้ใหญ่ของพรรคเป็นหลัก การปรับ ครม.อำนาจเป็นของนายกรัฐมนตรี

กมธ.อุตฯมั่นใจมีคนของรัฐพันปัญหาแคดเมียม

กมธ.อุตฯ ถกปัญหาแคดเมียม 'อัครเดช' เสนอดับเบิ้ลซีลใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ก่อนขนย้าย จี้เร่งเคลื่อนย้ายฝังกลบก่อน 7 พ.ค. ยันมี จนท.รัฐเอี่ยวลักลอบขนย้ายแน่ เผย 4 ตัวละครเกี่ยวข้องเป็นทุนจีนเทา

'วิทยา' ย้ำไม่มีสัญญาณปรับครม. 4 รมต.รทสช.มีผลงานประจักษ์ ควรได้โอกาสทำงานต่อ

'วิทยา' ยันยังไม่มีสัญญาณปรับครม.ออกมาจากนายกฯ มีเพียงข่าวปล่อยและวิเคราะห์กันเองคนโน้นจะเข้าคนนี้จะออก ย้ำ 4 รมต.ของพรรคมีผลงานประจักษ์ไม่มีเรื่องทุจริตให้รัฐบาลเสี่อมเสีย ควรได้โอกาสทำงานต่อ

'ทนายบอน' ลากไส้พวกร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ อาศัย สรร. เป็นช่องทางแสวงหาอำนาจโดยอ้างประชาชน

นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ทนายบอน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่ารัฐธรรมนูญถ้าจะแก้เพื่อประชาชน แก้เป็นรายมาตราครับ