นายกฯ หนุนขับเคลื่อนอุตสาหกรรม MICE

นายกฯ วางนโยบายเร่งส่งเสริมความแข็งแกร่ง SMEs ไทย พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม MICE เชื่อมั่นกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ สร้างงาน รายได้ และอาชีพให้ท้องถิ่นยกระดับให้ไทยเป็นจุดหมายสำคัญ MICE ของโลก

15 ก.พ.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดนโยบายในการส่งเสริม SMEs และอุตสาหกรรม MICE ด้วยตระหนักดีว่า เป็นภาคส่วนที่มีศักยภาพ และมีความสำคัญ กระจายความเจริญทางเศรษฐกิจ สร้างงาน อาชีพ กระจายรายได้ และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ

โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่ากระทรวงพาณิชย์ประกาศเป้าหมายซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลร่วมมือกับทุกภาคส่วนกำหนด รวมทั้งกรอบระยะเวลาดำเนินงาน ผ่านมาตรการส่งเสริม SMEs 9 ด้าน ที่จะผลักดันให้ GDP ของ SMEs ไทยเพิ่มจาก 35.2% เป็น 40% ได้ภายในปี 2570 โดยมาตรการทั้ง 9 ประกอบด้วย 1. บูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อแลกเปลี่ยนและสนับสนุนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ SMEs 2.สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (Geographical Indication: GI) และส่งเสริมให้สินค้า GI เป็นที่รู้จักในวงกว้าง 3.บริหารจัดการสินค้าเกษตรเพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในท้องตลาด 4.พัฒนาร้านค้าโชห่วยด้วยระบบการค้าสมัยใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ 5.ส่งเสริมการเติบโต SMEs ในท้องถิ่นให้เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐผ่านระบบ Thai SME-GP ทาง www.Thaismegp.com 6.สนับสนุนและสร้างมาตรฐานธุรกิจ e-Commerce 7.ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก 8.สร้างอาชีพผ่านระบบธุรกิจแฟรนไชส์ และ SMEs และ 9.เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศด้วยการกระตุ้นให้แรงงานต่างด้าวในไทยซื้อสินค้าและส่งกลับภูมิลำเนาแทนการส่งเงิน

พร้อมกันนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions: MICE) เป็นอีกภาคส่วนที่มีศักยภาพรัฐบาลต้องการผลักดันเพราะเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเพื่อใช้เป็นปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เป็นจุดเชื่อมต่อเที่ยวบินระหว่างประเทศจากทั่วโลก และการอำนวยความสะดวกเรื่องการขอวีซ่าและสถานที่ในการจัดแสดงสินค้าของประเทศในการยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจสำหรับการจัดประชุมและแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ และพร้อมรองรับนักเดินทาง MICE ต่างชาติซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะผลักดันให้มีนักเดินทาง MICE จากต่างประเทศ จำนวน 23.2 ล้านคนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปี 2567 โดยใช้กลยุทธ์การผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านการใช้นวัตกรรมสร้างสรรค์ในการสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นให้กับไทยในฐานะพื้นที่เป้าหมายของนักเดินทาง MICE จากทั่วโลก

“นายกฯ พิจารณาถึงภาคส่วนที่ไทยมีศักยภาพ พร้อมให้การสนับสนุน เพื่อสร้างโอกาส ทั้งผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมีศักยภาพ ทั้งความสร้างสรรค์ และคุณภาพ พร้อมการแข่งขันกับทุกตลาด และการขับเคลื่อน MICE ไทยให้เป็นอีกจุดหมายสำคัญของการจัดประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เป็นจุดหมายปลายทางของ MICE โลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าทั้งสองอุตสาหกรรมจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะสร้างงานผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง” นายชัยกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตรียมส่งสภาฯ ถกงบฯ 68 ต้น มิ.ย. สมัยวิสามัญ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รัฐบาลมีความพร้อมใช่หรือไม่ ว่า

นายกฯรับไม่ทราบขั้นตอน 'กฤษฎีกา' ให้ศาลรธน.ชี้ขาดคุนสมบัติ 'พิชิต' ยันทุกอย่างเป็นไปตามกม.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมกิจกรรม "10 เดือนที่ไม่ต้องรอ ทำต่อให้เต็ม 10" ซึ่งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย

'เศรษฐา' จ่อจัดรายการ 'นายกฯพบประชาชน' อยากสื่อสารกับปชช.สม่ำเสมอ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมจัดรายการนายกฯพบประชาชน ว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อรายการว่าอะไร

นายกฯซวยแล้ว! ภาคปชช.อ้างคำวินิจฉัยกฤษฎีกาคุณสมบัติ 'ทนายถุงขนม' ยื่นป.ป.ช.เอาผิด

สืบเนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี เฉพาะตามมาตรา 160(6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญ