'ผบ.ทบ.' ขอพลัง พสบ. สร้างเครือข่าย ลดความแตกแยกในสังคม

ผบ.ทบ. ขอพลัง พสบ. สร้างเครือข่าย-ความเข้าใจ ลดความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคม สนับสนุนภารกิจ ทบ. เพื่อความมั่นคงชาติ

4 มี.ค. 2567 – ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวในพิธีเปิดการอบรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร (พสบ.) รุ่นที่ 30 ว่า ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ของไทยนั้นมีแนวโน้มเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในหลากหลายมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคม รวมถึงสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แรงงานต่างด้าว ผู้หลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด และความยากจน เป็นสิ่งที่กองทัพบกตระหนักอยู่เสมอว่า การปฎิบัติภารกิจต่างๆ เพื่อความมั่นคงของสถาบันหลักนั้น ต้องประสานความร่วมมือและได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากทั้งภาครัฐ เอกชน เพื่อเป็นพลังความสามัคคีในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยประเทศ

ในช่วงการอบรม จากนี้ ขอให้ทุกท่านตั้งใจศึกษาความมั่นคงในมิติต่างๆ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นประสบการณ์ และร่วมกันจัดทำแผนความมั่นคงของชาติ และร่วมงานจิตอาสาอย่างสร้างสรรค์ เชื่อมั่นว่าในความรักความสามัคคีนี้ จะได้สร้างเครือข่าย พ.ส.บ. ที่เข้มแข็ง เป็นพลังที่สำคัญในการสนับสนุนความขับเคลื่อนภารกิจของกองทัพบกเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติต่อไป

“อย่างที่รับทราบว่าภัยความมั่นคงไม่ได้มาจากนอกประเทศอย่างเดียว จึงเป็นที่มาว่าจะทำอย่างไรในการรวมพลังของทุกภาคส่วนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ พสบ. เป็นหลักสูตรที่จะทำให้ทุกท่านได้มาใช้ศักยภาพของตนเอง มารวมกันในการสนับสนุนแก้ไขปัญหาเรื่องของแนวความคิด ซึ่งจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองเกิดประโยชน์ต่อสูงสุด ผมจึงอยากให้ทุกท่านได้ใช้โอกาสเหล่านี้ ซึ่งมีไม่มาก และไม่ได้มีโอกาสให้บุคคลทั่วไปอย่างทั่วถึง จึงขอให้ทุกท่านตระหนักและใช้เวลาที่อยู่ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด“ ผบ.ทบ. ระบุ

พล.อ.เจริญชัย กล่าวว่า เมื่อใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ความผูกพันย่อมบังเกิด ก็ขอให้ความผูกพันนั้น เป็นการสร้างความร่วมมือในการทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็นและเป็นประโยชน์ต่อไป ดังนั้นความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขปัญหานั้นคงไม่ได้เกิดเฉพาะในหลักสูตร แต่จะต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ก็ขอให้ใช้โอกาสตรงนี้สร้างความร่วมมือร่วมใจตั้งแต่เบื้องต้น และสร้างในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร หรือ พสบ. กองทัพบกดำเนินการมาถึงรุ่นที่ 30 โดยวางเค้าโครงหลักสูตรจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) โดยรุ่นนี้มีจำนวนผู้เข้ารับการอบรม 71 ราย ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร ตำรวจ 22 นาย ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานองค์กรของรัฐ 12 ราย และนักธุรกิจภาคเอกชน 37 ราย ระยะเวลาอบรมตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. ถึง 3 เม.ย. 67

มีเนื้อหาวิชาที่สำคัญ แบ่งออกเป็น 2 ภาค ได้แก่ ภาควิชาการ ประกอบด้วย ภารกิจและการดำเนินงานของกองทัพบก การดำเนินงานด้านกิจการพลเรือนของกองทัพบก ความสำคัญของการสร้างเครือข่ายมวลชนต่อการสนับสนุนภารกิจของกองทัพบก และศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ ขณะที่ภาคปฏิบัติ ประกอบด้วย การทัศนศึกษาและกิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์ การสัมมนาและเสวนาถกแถลงระดมความคิดเห็น การมีส่วนร่วมสนับสนุนแผนปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือนของกองกำลังป้องกันชายแดน และการดำเนินงานจิตอาสาเพื่อความมั่นคง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา กำชับให้รอบคอบ ไม่ประมาท อย่ายุ่งเกี่ยวผลประโยชน์ในพื้นที่

พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เดินทางไปติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยและเมียนมา ในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร โดยคณะได้รับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติภารกิจของหน่วย

ชุดสอบคดี 'บิ๊กต่อ' ยันไม่ล่าช้า มีหลักฐานพอสมควรแต่เปิดเผยไม่ได้

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2(ผบก.น. 2) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเคและในส่วนที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม

'บิ๊กโจ๊ก' ถอย! ดอดยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด 'เศรษฐา' ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตั้งผบ.ตร.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่23เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน

ผบก.น.2 ไม่ฟันธงพยานหลักฐานของ 'ทนายตั้ม' เชื่อถือได้หรือไม่

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เข้าร่วมประชุมและติดตามความคืบหน้าในคดีฟอกเงินเว็บพนัน BNK Master ของคณะพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน หลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำเอาพยาน