ศปปส.จี้ตำรวจจัดการพวกป่วนขบวนเสด็จฯ ให้เบ็ดเสร็จ

ศปปส.ร้องตำรวจจัดการแก๊ง 3 กีบป่วนขบวนเสด็จฯ ให้เด็ดขาดหลังจากปล่อยเรื่องค้างเติ่งมานาน ลั่นหากไม่ทำอาจต้องจัดการกันเอง

29 ธ.ค.2564 * ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอานนท์ กลิ่นแก้ว พร้อมด้วยกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดการกับแก๊ง 3 กีบชูป้ายยกเลิกมาตรา 112 ระหว่างขบวนเสด็จฯ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ หลังมีโทษแค่ปรับแล้วปล่อยตัวไป ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก โดยมี พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน เป็นผู้รับหนังสือ

นายอานนท์เผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่วงเวียนใหญ่ ขณะที่พวกเราและประชาชนกำลังรับเสด็จอยู่ได้มีหญิงสวมเสื้อสีขาววิ่งไปที่รถพระที่นั่งของในหลวง พระราชินี พวกเราเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและยังมีอีกกลุ่มหนึ่งไปยืนตะโกนให้ยกเลิกมาตรา 112 เหตุการณ์เมื่อวานมีผู้ร้องเรียนมามาก กลุ่ม ศปปส.จึงได้มาแจ้งยัง บช.น.ว่าจะทำอย่างไรต่อไป และจากเหตุการณ์ที่หญิงวิ่งไปยังรถพระที่นั่ง ทำให้นึกถึงเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่กลุ่มสามกีบขัดขวางขบวนเสด็จและมีกลุ่ม ศปปส.เข้าขัดขวางไม่ให้ไปขวางขบวนเสด็จฯ และวานนี้กลุ่มนั้นอยู่ไกลจากพวกเราจึงเกินความสามารถ วันนี้จึงมาถาม บช.น.ว่าเหตุการณ์วันที่ 14 ต.ค.ว่าไปถึงไหนแล้ว เพราะเราได้ทำหนังสือมาทวงถามหลายรอบแล้วอย่าให้ประชาชนเขาทำกันเอง และหญิงคนดังกล่าวมีสติกเกอร์ที่เคยต้องคดีไม่ทราบว่าตำรวจที่คัดกรองปล่อยให้เข้าไปได้อย่างไร หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในระหว่างขบวนเสด็จฯ แต่ปีนี้เกิดขึ้น 2 รอบแล้ว อยากรู้ว่าเขามีสถิติการเข้ารับสเด็จฯหรือไม่ และผู้หญิงคนดังกล่าวอยู่ที่ไหน ปล่อยตัวไปหรือยัง อยากให้ตำรวจชี้แจงงให้ประชาชนทราบ และทราบว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นต่างด้าว ถ้าเข้าเคยโดนคดีแล้วเขาเข้ามาได้อย่างไร

“ส่วนกรณี 3 นิ้วไปยืนตะโกนยกเลิกมาตรา 112 ที่ถูกตำรวจ สน.บุปผารามนำตัวไปก็แค่เสียค่าปรับแค่ 1,000 บาทแล้วปล่อยตัวกลับบ้าน พวกเรากังวลใจมากจะต้องปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆซากๆหรืออย่างไร ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญการปฏิรูปสถาบันคือการล้มล้าง มันเกี่ยวเนื่องทุกองค์กร ฉะนั้นจึงอยากให้ตำรวจช่วยจัดการพวกนี้เด็ดขาด ไม่ใช่วันดีคืนดีไปยืนอยู่ที่สี่แยกจัดงานปฏิรูปสถาบัน ผมไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยไปได้อย่างไร และจะทำอย่างไรต่อ ใกล้สิ้นปีแล้วอยากให้เจ้าหน้าที่ให้ของขวัญกับพวกเราโดยการจัดการกับพวก 3 นิ้วให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดสักที ถ้ามีอีก กลุ่ม ศปปส.และภาคีจะออกมาตอบโต้ทุกรูปแบบ เช่นเดียวกันกับคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำคลองเปรมไปถึงไหนแล้ว ผู้ร่วมก่อเหตุที่เป็นหญิงหายไปคนหนึ่ง เราพยายามติดตามเรื่องนี้แต่ยังไม่ได้คำตอบ“

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐสภา' มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจรัฐสภา ปมจัดทำรธน.ฉบับใหม่

“รัฐสภา” มีมติส่งศาลรธน.ตีความอำนาจตัวเอง ปมแก้รธน.ฉบับใหม่ ด้าน“วันนอร์”แจงยิบ ยึดตาม”ชวน”เคยวินิจฉัยร่างของ”สมพงษ์”มาแล้ว ชี้เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาวินิจฉัยเพื่อไปต่อแล้วไม่ล้ม ไม่เสียของ

'ก้าวไกล' งดออกเสียงญัตติส่งศาลวินิจฉัยอำนาจรัฐสภา 'ชัยธวัช' ด่าศาลรธน.

การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องขอให้

'อดิศร' ซัดแรงมีรัฐสภาไปทำพระแสงอะไร จะแก้รัฐธรรมนูญ ยังให้ศาลวินิจฉัยอำนาจประชาชน

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า อำนาจตุลาการ และอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร แยกกันและถ่วงดุลกัน ไม่ใช่คล่อมเลน มีบางครั้งจะยื่นญัตติได้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นฝ่ายตุลาการ แต่เราฝ่ายนิติบัญญัติ เราคิดของเราเองได้

'เอกนัฏ' พร้อมหนุนญัตติเพื่อไทย ถามศาลรธน. บรรจุวาระแก้รธน. แต่ต้องไม่แตะหมวด 1,2

"เอกนัฏ" หนุนถามศาล รธน. แต่ขอเพื่อไทยวางหลักประกัน ไม่แตะหมวด 1-2 แก้รายมาตรา ป้องรัฐธรรมนูญ 60 ไม่ใช่ผลพลอย รปห. ชี้ หากแก้เกือบทั้งฉบับ จะเสียของดี

'รัฐสภา' ถกบรรจุวาระจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ 'ก้าวไกล' หนักใจยื่นดาบให้ศาลรธน.อีกแล้ว

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ

'ไมค์ ภาณุพงศ์' เคลื่อนไหวแล้ว หลังศาลออกหมายจับ เหตุเบี้ยวฟังพิพากษาคดีหมิ่นเบื้องสูง

กรณีนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำม็อบคณะราษฎร จำเลยในคดีมาตรา 112 ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลจึงออกหมายจับ