ตัวแทนชาวอ่างทอง ทวงคืบหน้าปมร้อง กกต.กลางสอบนายก อบจ อ่างทอง ใช้งบจัดเลี้ยง แจกของก่อนลาออก 90 วัน ส่อขัดข้อห้ามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ร่อนหนังสือกังวลใจหลังมีข่าวอาจยกคำร้อง เผยสอบท้องถิ่นมีการแจกคำตอบให้พยาน หวั่น กกต.ตีความใช้งบดำเนินการก่อนลาออก หากทำได้ จะทำให้ที่อื่นแห่ทำตาม
2 ก.ย.2567 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายโยธิน เปาอินทร์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมด้วยกลุ่มตัวแทน เดินทางเข้ายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าการยื่นเรื่องร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการกระทำฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 วรรคสอง ที่กำหนดว่าข้อห้ามดำเนินการต่างๆก่อนยื่นลาออกหรือครบวาระ 90 วัน สืบเนื่องจากนายสุรเชษ นิ่มกุล หรือ นายกตี๋ ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง และเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.67 ซึ่งตรงกับวันเลือกตั้งนายก อบจ .อ่างทอง ได้ยื่นให้ กกต.ประจำจังหวัดอ่างทอง ไปดำเนินการตรวจสอบว่าการดำเนินการใดๆก่อนยื่นลาออกจากตำแหน่ง 90 วันอาจเป็นการขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งท่องถิ่นหรือไม่ แต่ผ่านมาแล้วหลายเดือนยังไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้อง กกต.กลางให้ดำเนินการตรวจสอบ และมีการยื่นให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ใน 4 ประเด็นโดยเฉพาะการอนุมัติโครงการหรือกิจกรรม เข้าข่ายเป็นกิจกรรมหรือโครงการใหม่ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ รวมถึงได้ยื่นหลักฐานที่เคยร้องต่อกกต.อ่างทอง นำมายื่นให้กกต.กลางตรวจสอบด้วย
นายโยธิน กล่าวว่าตนยื่นเรื่องในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยกังวลการตีความข้อกฎหมายท้องถิ่น เนื่องจากตัวนายก อบจ อ่างทองเป็นนักการเมืองเก่าและมีความคุ้นเคย รู้จักมักคุ้นกับข้าราชการส่วนใหญ่ จึงเกิดความกังวลการตีการตีความกฎหมายท้องถิ่นมาตรา 65 วรรคหนึ่งและวรรคสองจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทั้งนี้ได้ยื่นหลักฐานให้มีการตรวจสอบพฤติการณ์ของ นายก อบจ คนดังกล่าวโดยรวบรวมมาจากโซเชียลมีเดียส่วนตัว ที่เจ้าตัวเป็นคนโพสต์ภาพและข้อความเองว่าได้ดำเนินการอะไรบ้าง โดยประเด็นที่ค่อนข้างมีความชัดเจนคือมีการจัดเลี้ยงวันเกิดในช่วง 90 วันก่อนลาออกจากตำแหน่ง มีการแจกของชำร่วย ปรากฏภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ รวมถึงมีการแจกของช่วยเหลือสมาคม มูลนิธิ โรงพยาบาล ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 65 (1)(2) และ (4) โดยขณะนี้มีข่าวแว่วมาว่ามีการตกลงกันแล้วว่าจะยกคำร้อง ทำให้ตนรู้สึกกังวล วันนี้มาขอให้ กกต.เร่งดำเนินการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ก็ได้ยื่นหนังสือข้อกังวลใจของกลุ่มตนในฐานะผู้ร้อง เนื่องจากผู้ถูกร้องเป็นนายก อบจ มาหลายสมัย ก็มีความสัมพันธ์กับข้าราชการในพื้นที่ เกรงว่าการพิจารณาแต่ละขั้นตอน อาจจะทำให้เจตนารมณ์ของกฎหมายผิดเพี้ยนไป
นายโยธิน กล่าวอีกว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ประกาศใช้เมื่อปี 2562 ก่อนมีการจัดการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศในปี 2563 โดยการตัดสินในครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐานทันที เพราะยังไม่มีการลาออกอย่างเป็นทางการของนายก อบจ หากตามกฎหมายมาตรา 65 วรรคสองระบุว่า 90 วันห้ามกระทำการตามวรรคหนึ่ง โดยตนเห็นว่าการกระทำน่าจะขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะมาตราดังกล่าว เคยบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ฉบับเดิมในมาตรา 57 ไม่มีวรรคสอง ไม่มีคำว่า 90 วันก่อนลาออกหรือครบวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งตามเจตนารมณ์ของผู้เขียนกฎหมาย เห็นว่าการเพิ่มข้อความน่าจะให้ผู้สมัครใหม่ หรือผู้ดำรงตำแหน่งเดิมมีความเท่าเทียมกัน จึงระบุห้ามกระทำการตามวรรคหนึ่ง
นายโยธิน ยังเปิดเผยอีกว่าเป็นที่ทราบกันดีว่าในพื้นที่มีการเตรียมพยานให้พูดอย่างไร โดยเฉพาะมีคนกระซิบมาว่ามีการเฉลยข้อสอบว่าจะถามอะไร แล้วจะให้ตอบว่าอะไร ซึ่งกลายเป็นการล็อกสเป็คไป ตนก็เลยมีความกังวลใจ จึงมายื่น กกต.กลางให้ตรวจสอบว่าการสืบสวนสอบสวนของจังหวัดเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าการมายื่นเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้ไมได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายนายก อบจ อ่างทองใช่หรือไม่ นายโยธิน ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะหลักฐานทั้งหมด เป็นหลักฐานที่ปรากฏตามโซเชียลมีเดียที่เจ้าตัวโพสต์เองและองค์การบริหารส่วนจังหวัดโพสต์ ไม่ได้เป็นหลักฐานที่ตนเสาะหามาได้เอง แต่เป็นหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ไม่ได้กลั่นแกล้ง พร้อมกันนี้ได้ฝากไปยัง กกต.ในการดำเนินการตรวจสอบว่าการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นครั้งที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งกฎหมายท้องถิ่นปี 2562 เป็นการบังคับใช้ครั้งแรก และครั้งนี้หากตัดสินออกมาอย่างไรก็จะเป็นบรรทัดฐาน หากตัดสินว่า 90 วันก่อนลาออกสามารถดำเนินการได้ทุกอย่าง ตนว่ากฎหมายข้อนี้ก็ไม่รู้จะเขียนมาทำไม เพราะจะไปอ้างอิงกับกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นฉบับเดิม ที่กำหนดข้อห้าม 5 ข้อ แต่ไม่มีในเรื่อง 90 วัน ส่วนตัวเห็นว่าการเพิ่มข้อห้ามดังกล่าว มีความหมาย อย่างไรก็ตามหากตัดสินว่าสามารถทำได้ ก็เกรงว่าจะกลายเป็นโมเดลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อื่นๆดำเนินการตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.บริจาคภัยพิบัติเต็มที่ ท้องถิ่นระวังช่วง180วัน!
กกต.ไฟเขียวบริจาคช่วยภัยพิบัติ สส.-สมาชิกพรรค ทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท
กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด
กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก
กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดนิยาม ผู้สมัคร อบต. ต้องนับตั้งแต่ ‘เสนอตัว’ ไม่ใช่วันได้สมัครต่อ กกต.
“ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม” ผ่าปมกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น หลังนักการเมือง อบต.ฮือฮาแจกของช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ระบุชัด สถานะ ผู้สมัคร เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ประกาศตัวลงสนาม ไม่ใช่วันที่ยื่นใบสมัครต่อ กกต. พร้อมเตือ
แม่ค้าหมูสดแก้บนชุดใหญ่! หัวหมู 99 หัว-ไข่ 99 แผง หลัง 2 หมู่บ้านรอดน้ำท่วม
แม่ค้ารายใหญ่ตลาดแต้ อำเภอเมืองอ่างทอง นำหัวหมู–ไข่ไก่ พร้อมวงดนตรีเต็มวง มาถวายหลวงพ่อสิงห์ หลังบ้านและห้องเย็นมูลค่านับล้าน “รอดหวุดหวิด” จากน้ำเจ้าพระยา ก่อนเตรียมนำของแก้บนแจกชาวบ้านร่วมฉลองปลอดภัยไปด้วยกัน
กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444


